
เงินเดือนน้อย ไม่ใช่อุปสรรคของผู้ที่ต้องการจะออมเงิน เราไม่เถียงว่าการมีรายได้น้อยนั้นอาจจะทำให้เกิดข้อจำกัด บางประการในการออมเงินเกิดขึ้นแต่มันก็ไม่ถือว่า
เป็นปัญหาหากคุณตั้งใจจะเก็บเงินจริง ๆ วันนี้ เราขอเอาใจช่วยคนมีรายได้น้อยให้เก็บเงินเพื่อสร้างอนาคตที่ดีขึ้นโดยการนำเคล็ดลับการเก็บเงินมาฝากคุณผู้อ่านกัน
1. เปลี่ยนความคิดเรื่อง เงินเดือนน้อย
การมีเงินเดือนน้อย ไม่ใช่อุปสรรค ในการเก็บออมแต่ความคิดที่ว่า “มีเงินเดือนน้อยจะเก็บเงินได้อย่างไร แค่ใช้จ่ายก็แทบจะไม่พอในแต่ละเดือนแล้ว” นี้ต่างหาก
เล่าที่เป็นอุปสรรคในการเก็บเงินความคิดนี้ตัดกำลังคุณทั้ง ๆ ที่คุณยังไม่ทันได้ลองเริ่มต้นเก็บเงินเลยด้วยซ้ำ ดังนั้นก้าวแรกในการเก็บเงินคือ การเปลี่ยนวิธีคิดของคุณให้ได้ก่อน
และมีความมุ่งมั่นว่าจะต้องเก็บเงินให้ได้ ไม่ว่าจะมีรายได้มากน้อยแค่ไหนก็ตาม
2. จดบันทึกทุกรายรับและรายจ่าย
เมื่อเปลี่ยนความคิดและมีความมุ่งมั่น ที่จะเก็บเงินได้แล้ว สิ่งต่อมาที่คุณต้องทำคือการจดบันทึกทุกรายรับ และรายจ่ายของคุณ ตั้งแต่ยอดเงินเดือน สุทธิที่ได้รับไปยันค่าขนม
ซองละ 10 บาท ที่คุณ ซื้ อ รวมไปถึงภาระหนี้สินและค่าใช้จ่ายจำเป็นเช่น ค่าน้ำไฟ ค่าโทรศัพท์ ค่าบัตรโดยสาร รถไฟฟ้า เป็นต้น ลงไปวิธีนี้จะทำให้คุณรู้ว่าคุณมีค่าใช้จ่าย
ในแต่ละเดือนเท่าไหร่มีรายจ่ายอันไหนที่เป็นรายจ่ายจำเป็น ต้องจ่ายทุกเดือนรายจ่ายไหนที่ไม่จำเป็นและคุณสามารถตัดมันออกไปได้
3. มีเป้าหมายในการเก็บเงิน
การเก็บออมเงินเฉย ๆ อาจจะทำให้คุณไม่มีแรงจูงใจ ในการเก็บออมเงินดังนั้นการเก็บเงินของคุณจึงล้มเหลว ไม่เคยเก็บอะไรได้เสียที ดังนั้นลองตั้งเป้าหมายในการเก็บออมเงิน
ของคุณดูสิ อาจจะเริ่มจากสิ่งเล็ก ๆ ก่อนเช่น อยาก จะเก็บเงินเพื่อ ซื้ อ ทองสัก 1 บาทราคาประมาณ 25,000 บาทเพื่อเก็บเอาไว้เก็งกำไร เป็นต้นเมื่อคุณมีเป้าหมายก็
จะทำให้คุณมีแรงจูงใจในการเก็บเงินมากขึ้นและเมื่อคุณบรรลุเป้าหมายเล็ก ๆ ได้ ก็จะทำให้คุณมีความภูมิใจและสามารถเก็บเงินก้อนใหญ่ กว่าเดิมได้ง่ายมากขึ้นนั่นเอง
4. ออมก่อนค่อยใช้
สิ่งหนึ่งที่เชื่อว่าหลาย คนคงเคยได้ยินมามากแล้วว่า “การเก็บออมเงินที่ได้ผลที่สุดคือการเก็บออมก่อนค่อยนำเงินที่เหลือไปใช้จ่าย” ซึ่งเป็นเรื่องที่หลายคนทำใจ
ยากที่จะทำแต่ในเมื่อมุ่งมั่นที่จะเก็บเงินแล้ว ยังไงก็ต้องทำได้แน่นอนจากการจดบันทึกรายรับรายจ่ายข้อที่แล้วซึ่งช่วยทำให้คุณรู้คร่าว ๆแล้วว่าคุณมีค่าใช้จ่ายจำเป็นต่อเดือนเท่าไหร่
มีเงินเหลือใช้จ่ายเท่าไหร่สามารถเก็บเงินได้เท่าไหร่ ทำให้เมื่อคุณได้รับเงินเดือนมาคุณสามารถเก็บเงินเอาไว้ก่อนได้ทันทีซึ่งเงินออมนี้ไม่จำเป็นต้องแบ่งเก็บเอาไว้มากมาย
ถ้าคุณมีรายได้น้อยก็เก็บออมน้อยมีมากก็ค่อยเก็บออมมากตัวอย่างเช่น คุณมีเงินเดือน 15,000 บาท ออมเงินทันที เมื่อได้รับเงินเดือน 1,000 บาทหักค่าใช้จ่ายจำเป็นต่อเดือน 7,000 บาท
เหลือเงินใช้จ่าย 7,000 บาทก็ถือว่าคุณยังสามารถ ใช้ชีวิตทั้งเดือนได้แบบสบาย ๆโดยไม่ลำบากมากนักหากคำนวนเป็นรายวัน ก็จะอยู่ที่ 7,000 ÷ 30 = 233.33 บาท
โดยคุณอาจจะปัดเศษค่าใช้จ่ายรายวันเป็นวันละ 200 บาท เพื่อให้ง่ายต่อ การจัดสรรเงินแต่ละวัน (หรือง่ายต่อการกดเงินจาก ATM นั่นเอง) ส่วนเศษ 33.33 บาทในแต่ละวันนั้น
ก็หักเป็นเงินเก็บไปจะได้ถึง 33 x 30 = 990 บาท ต่อเดือนดังนั้นจึงสรุปได้ว่า ในหนึ่งเดือน คุณจะมีเงินเก็บ 1,990 บาทในหนึ่งปีคุณจะมีเงินเก็บมากถึง 23,880 บาท
ถือเป็นเงินจำนวนไม่น้อยเลยนะคะ
5. เปลี่ยนนิสัยการใช้เงิน
จากตัวอย่างในข้อที่แล้ว ทำให้หลายคนอาจจะบ่นว่า เงินแค่วันละ 200 บาทจะไปพอใช้จ่ายแต่ละวันได้อย่างไร เราขอบอกว่าพอใช้จ่ายแน่นอนค่ะหากคุณเปลี่ยนนิสัย
การใช้เงินให้เพียงพอกับจำนวนเงินต่อวัน ตัวอย่างเช่นงดทานกาแฟสดราคาแก้วละหลายสิบบาท ไปทานกาแฟชงที่ออฟฟิศมีบริการฟรีแม้ว่าจะต้องเสียแรงชงเองแต่
คุณไม่เสียเงินเลยแม้แต่บาทเดียวมีเงินเหลือไปใช้จ่ายอย่างอื่น ในแต่ละวันได้อีกหรืออีกทางหนึ่งที่เหมาะกับครอบครัวที่ทำอาหารทานเองที่บ้าน อยู่เป็นประจำ คือ
ห่อกล่องข้าวกลางวันไปทานที่ทำงานก็ช่วยประหยัดเงินรายวัน ของคุณไปได้อีกหลายบาทเลยทีเดียว
6. คิดให้นานก่อน ซื้ อ ของ
การ ซื้ อ ของอะไร ที่เป็นสิ่งฟุ่มเฟื่อย เช่น เสื้อผ้า กระเป๋า นาฬิกาเป็นต้นหากคุณปล่อยตัวปล่อยใจไปตามอารมณ์เงินเก็บของคุณก็จะหมดไปกับสิ่งของเหล่านี้อย่าว่าแต่เงินเก็บเลย
เงินที่จะนำไปใช้จ่ายรายวันก็ไม่เหลือเช่นกันแต่จะทำอย่างไรล่ะ เมื่ออยากได้ของฟุ่มเฟือยเหล่านั้นมาครอบครอง? หลายคนหันไปพึ่งพาบัตรเครดิตและก่อให้เกิดปัญหาหนี้สินตามมา
เพราะว่าไม่มีเงินมากพอที่จะไปชำระบิลบัตรเครดิตเต็มจำนวนต้องเลือกจ่ายเพียงขั้นต่ำก่อให้เกิด ดอกเบี้ยพอกพูนมากขึ้นไปเรื่อย ๆ ไม่รู้จบดังที่คนส่วนใหญ่ในประเทศไทย
กำลังมีปัญหาอยู่ในปัจจุบันนั่นเอง
7. หารายได้พิเศษ
สำหรับผู้ที่มี เงินเดือนน้อย แต่อยากมีเงินเก็บมากกว่าตัวอย่างที่เราแนะนำไปข้างต้นคุณอาจจะลองหารายได้เสริม เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับตัวเองซึ่งในปัจจุบันนี้การหารายได้เสริมนั้นง่าย
แสนง่ายเช่นหากคุณมีความรู้ด้านภาษาคุณ สามารถรับแปลเอกสารต่างๆ ได้หรือหากคุณมีความสามารถด้านการขาย คุณอาจจะหาสินค้ามาขายทางออนไลน์โดยอาจจะเริ่มต้น
ที่ของเก่าภายในบ้าน มาขายมือสองเมื่อเริ่มมีกำไรก็นำไปต่อทุนขยาย กิจการต่อไป หรือหากมีความสามารถในการประดิษฐ์ของแฮนด์เมดก็สามารถทำมาขายได้เช่นกัน
8. ล ง ทุ น ต่อยอดเงิน
เมื่อคุณเก็บเงิน มาได้สักก้อน คุณสามารถนำเงินเก็บก้อน นั้นไป ล ง ทุ น ต่าง ๆได้ซึ่งแน่นอนว่าได้ผลตอบแทนดีกว่าการเก็บเงินรอกินดอกเบี้ยเงินฝากเป็นไหน ๆ
เช่น ฝากในบัญชีฝากประจำ ซื้ อ พันธบัตร กองทุนรวม หรือ ซื้ อ LTF RMF เป็นต้นเพื่อทำให้เงินเก็บ ที่คุณมีอยู่งอกเงยมากขึ้นไป
ที่มา : m o n e y w e c a n