Home ข้อคิด ฝึกใช้ชีวิตแบบ “คนจน” แล้วคุณจะไม่มีวันจน

ฝึกใช้ชีวิตแบบ “คนจน” แล้วคุณจะไม่มีวันจน

6 second read
0
0

ประโยคง่าย ๆ สั้น ๆ “ใช้ชีวิตแบบคนจน แล้วคุณจะไม่มีวันจน!” เป็นคำพูดที่คนสมัยก่อนมักใช้สอนลูกหลาน คนสมัยก่อนจะประหยัดอาจจะเพราะเคยผ่านความลำบากมาก่อน

แต่ที่จริงก็ไม่น่าจะแบ่งว่าเป็นคนสมัยก่อนหรือสมัยนี้ เพราะเป็นเรื่องของปัจเจกบุคคลมากกว่า ผู้เขียนเชื่อว่าคนยุคใหม่เองก็มีไม่น้อยที่รู้จักใช้เงิน แบ่งเงินเก็บออม ไม่จำเป็น

ว่ามีมากต้องใช้มาก เพียงแต่ด้วยความที่โลกเราอยู่ในยุคของทุนนิยม ที่เน้นเรื่องของการบริโภคนิยมเป็นที่ตั้ง ผู้คนเชื่อว่าความสุขจะเกิดขึ้นได้จากการใช้เงิน ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง

กินหรือเที่ยวก็เลยจัดกันเต็ม ไม่มีแล้วสำหรับคำว่าลำบากก่อนสบายทีหลัง เพราะต้องการสบายตั้งแต่วันนี้เลย ผู้คนในยุคนี้มีแนวโน้มที่จะใช้จ่ายเงินเพื่อ ซื้ อ ความสุขมากกว่า

คนในอดีต นี่เป็นความจริงที่ทุกคนรู้ดี เพียงแต่บางครั้งเราต้องเหมือนหยุดคิด หรือมีเบรกตัวเองไว้บ้าง การไป อ่ า น เจอประโยคที่เป็นข้อคิดหรือคติทำให้เราหยุด หันมาทบทวน

พฤติกรรมของตัวเองว่ามีอะไรที่มากหรือน้อยเกินไป แล้วก็ปรับเปลี่ยนเพื่อให้เกิดความสมดุลมากขึ้น เหมือนอย่างที่ ช า วพุ ท ธ ยึดเรื่องการเดินทางสายกลาง น่าจะเป็นความสุข

ที่แท้จริงมากกว่า บางคนที่ยังเรียกตัวเองว่าไม่มีหรือจน อาจเถียงว่าไม่ต้องใช้ชีวิตแบบจนก็ถูกบังคับให้ต้องมีชีวิตแบบจน ๆ อยู่แล้วล่ะ ถ้าความคิดเริ่มต้นของคุณเป็นแบบนี้

แสดงว่าคุณไม่รู้ถึงความหมายเบื้องลึกเบื้องหลังของข้อความนี้ นำไปคิดและประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับชีวิต มีบางคนบอกว่าเห็นคนเก็บขยะ เขากิน อ า ห า ร ถูก ๆ ใส่เสื้อผ้าเก่า ๆ

เขาก็ยังคงจนอยู่ ส่วนเจ้าของร้านทอง กิน อ า ห า ร ในภัตตาคาร ใส่เสื้อผ้าหรูราคาแพง ก็เห็นเขาก็ยังรวยอยู่ ถ้าคุณคิดแบบนี้ก็แสดงว่าข้อความนี้คงไม่มีประโยชน์อะไร

ที่คุณจะเอาไปคิดต่อได้ ชีวิตคนเราจะแตกต่างกันก็อยู่ที่ทัศนคติในการมองชีวิตที่แตกต่างนี้แหล่ะค่ะ การเปิดกว้าง ยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น มีทัศนคติในเชิงบวกเท่านั้น

ที่จะทำให้เราก้า วข้า มกำแพงที่มีอยู่ในใจของตัวเราเองได้ “ใช้ชีวิตแบบจนแล้วคุณจะไม่มีวันจน” การใช้ชีวิตแบบคนจนไม่ได้หมายถึงให้เราต้องไปตกระกำลำบาก

กิน อ า ห า ร ราคาถูก ใส่เสื้อผ้าเก่า ๆ ขาด ๆ แต่หมายถึงเราต้องรู้จักเลือกกิน เลือกใช้ ไม่ฟุ่มเฟือยไม่กินทิ้งกินขว้าง หรือมีข้าวของมากมายเกินความจำเป็น ยกตัวอย่างง่าย ๆ

เด็กที่จนเขาไม่มีสิทธิ์เลือกอยู่แล้ว จาน อ า ห า ร ที่วางตรงหน้าก็คือสิ่งที่เขาต้องทาน แต่เด็กสมัยใหม่บางคนสั่ง อ า ห า ร มาทานไม่หมด ถึงเวลาก็จะอ้อนสั่งอย่างอื่นใหม่

หากอยากสอนลูกด้วยวิธีที่ถูกต้องก็คือ ต้องทานให้หมดเท่านั้นถึงจะสั่งใหม่ได้ เราต้องรับผิดชอบกับ อ า ห า ร ที่เราสั่งมาเด็กยุคใหม่หลายคนที่นั่งกินข้าวร้าน อ า ห า ร ตามสั่ง

ไม่ได้มีเยอะมากค่ะ เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายก็เหมือนกัน มีเท่าที่จำเป็นก็พอ แต่บางคนกลับมีรองเท้าตั้งหลายสิบคู่ในคราวเดียวกันมันดูจะเยอะเกินไปไหม การอยู่ในสังคมบางครั้ง

เราก็จำเป็นต้องเห็นเพื่อนร่วมงาน คือคนร่วมสังคมที่มีฐานะแตกต่างกัน เขาใช้ของแบรนด์เนมราคาแพง เราไม่จำเป็นต้องไขว่คว้าหาของเหล่านี้มาเป็นเจ้าของให้ลำบาก

เลือกที่จะเป็นและใช้ชีวิตในแบบของตัวเองที่เหมาะสมกับฐานะและรายได้ของเรา ไม่สร้างหนี้ แล้วเราก็จะไม่มีวันจนจริง ๆ ค่ะ ถึงเราจะไม่ได้มีมากเท่าคนอื่น แต่มั่นใจได้เลยว่า

เราจะไม่จนแน่ ๆการใช้ชีวิตแบบพอเพียงหรือในความหมายแบบจน ๆ นี่แหละที่จะบ่มเพาะกลายเป็นนิสัยที่ติดตัวของเราไป เราจะไม่รู้สึกว่าขาดอะไร แต่เมื่อไหร่ที่เราได้อะไรมาเพิ่ม

มันจะเป็นความรู้สึกที่ดีมาก ๆ ตรงกันข้ามถ้าเราใช้ชีวิตเกิน ๆ อยู่ตลอด ถึงเวลาที่เราต้องขาด มันจะเป็นความรู้สึกที่ดีได้อย่างไร เปรียบเทียบง่าย ๆ ถ้าเรากิน อ า ห า ร ในห้างทุกมื้อ

กับเลือกกิน 2-3 มื้อต่อสัปดาห์ มื้อไหนที่จะสร้างความสุขและความประทับใจให้เราได้มากกว่ากัน แถมเงินยังเหลือติดกระเป๋ามากกว่าอีกด้วย ไม่จนกรอบก่อนสิ้นเดือนแน่

ถ้าวางแผนให้ดี ๆ นี่เป็นตัวอย่างง่าย ๆใครไม่เคยจนมาก่อน ก็คงยากที่จะรู้ว่าความจนมันน่ากลัวขนาดไหน และนี่เองที่เป็นที่มาของสิ่งที่รุ่น พ่อแม่ ปู่ ย่ า ต า ย า ย เรา พ ย า ย า ม

สอนอยู่เสมอแม้ว่าปัจจุบันหลายคนจะต่อสู้จนกลายมาเป็นคนร่ำรวยได้แล้วก็ตาม ให้ลูกหลานรู้จักประหยัด ไม่ฟุ่มเฟือยเป็นพื้นฐานไว้ก่อน จากนั้นที่สำคัญคือต้องรู้จักคิดเพื่อ

ต่อยอดสร้างความก้าวหน้าขึ้นไปให้ได้ถ้าเรารู้จักใช้ชีวิตแบบคนจน ในความหมายที่ว่า คือให้ใช้จ่ายน้อยกว่าที่หามาได้ แบบนี้ไม่มีวันจนแน่ ๆ แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่ใช้เงินมาก

เกินกว่าที่หามาได้ เรียกว่าใช้เงินแบบคนรวยทั้งที่ไม่ใช่คนรวย คุณก็จะอยู่แบบจน ๆ แบบนี้และไม่มีวันเป็นคนรวยกับเขาได้แม้ว่าเราจะเป็นคนยุคใหม่ที่หันไปทางไหนก็

มีแต่เรื่องของบริโภคนิยม แต่อย่างไรก็ขอให้มีสติ รู้เท่าทันโลกที่หมุนเวียนเปลี่ยนไป รู้ว่าตัวเราเองกำลังทำอะไรอยู่ รู้ว่าเราอยู่ในฐานะไหน รู้ว่าการใช้จ่ายของเรามากหรือ

น้อยเกินจำเป็น ให้สิ่งนี้เป็นพื้นฐานที่ติดตัวเราไปไม่ว่าจะที่ไหน ๆ ในทุก ๆ วัน

เชื่อสิคะ! ว่าคุณจะไม่มีวันจนค่ะ

ขอบคุณที่มา : m o n e y h u b .

Load More Related Articles
Load More By sabailey99
Load More In ข้อคิด

Check Also

10 ข้อที่บอกว่า ผู้หญิงนิ่งๆ ไม่ค่อยพูด..พวกเธอมีเสน่ห์ล้นเหลือมาก

1. ‘ความถ่อมตัว’ ของเธอน่ะมีเสน่ห์ม้าก มาก สาวขี้อายหลายคนมักมีคุณสมบัติหนึ่ง นั่นคือ ‘ คว…