Home ข้อคิด พฤติกรรมของพ่อแม่..จอมสปอยล์ลูก ถ้ารักลูกจริง.จงหยุด

พฤติกรรมของพ่อแม่..จอมสปอยล์ลูก ถ้ารักลูกจริง.จงหยุด

11 second read
0
0

ปัญหาครอบครัวอย่างหนึ่ง ของคู่แต่งงานที่มีลูกน้อย คือการเลี้ยงลูกอย่างตามใจจนเกินไป ทำให้เด็กที่ถูกตามใจ จากพ่อแม่กลายเป็นเด็กสปอยล์ หรือเรียกได้ว่าการที่

พ่อแม่ สปอยล์ลูก (Spoil)คือการทำให้เด็กเสียคน หรือตามใจลูกจนเกินไปนั่นเองคุณพ่อคุณแม่อาจมองว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่จะส่งผล ร้ า ย ต่อเด็กได้ในอนาคต

วันนี้เราขอพาส่องว่ามีพฤติกรรมแบบไหนบ้างที่พ่อแม่รังแกฉัน ทำ ร้ า ย ลูกน้อยแบบไม่รู้ตัวพฤติกรรมพ่อแม่แบบไหนที่เข้าข่าย
สปอยล์ลูก

1.แสดงพฤติกรรม แ ย่ ๆ ให้ลูกเห็น

เด็กเล็ก ๆ มักจะมีพฤติกรรม การลอกเลียนแบบคนใกล้ตัว ดังนั้นถ้าพ่อแม่ทำไม่ดีต่อหน้าลูก ก็จะทำให้ลูกเลียนแบบนิสัยไม่ดีของพ่อแม่ไปได้ ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นคำพูดหรือ

การแสดงออกหากไม่อยากให้ลูกทำไม่ดี ก็ไม่ควรทำให้ไม่ว่าจะอยู่ต่อหน้า หรือลับหลังลูก เช่น ห้ามลูกไม่ให้กินขนมกรุบกรอบ แต่คุณก็ชอบ ซื้ อ ขนมเหล่านั้น มากินเอง

หรือการเผลอพูด คำ ห ย า บ ที่อาจเป็นคำอุทานเมื่อลูกได้ยินบ่อย ๆ ก็อาจนำคำพูดที่คุณใช้บ่อย ๆ มาพูดได้ เป็นต้น

2.เข้มงวดกับลูกเกินพอดี

หากคุณใช้วิธีการเลี้ยงลูกแบบเข้มงวด มากเกินไป ก็อาจจะทำให้ลูกกลายเป็นเด็กขี้กลัว ไม่กล้าตัดสินใจอะไรเอง ไม่มีความมั่นใจในตัวเองเพราะอะไรที่มันมากเกินไปผลลัพธ์

ที่ได้มักจะไม่ดีเสมอดังนั้นถ้าไม่อยากให้ลูกกลายเป็นเด็กมีปัญหา ลองปล่อยให้ลูกได้มีความคิดในการตัดสินใจและได้ทำอะไรด้วยตัวเองดูบ้าง

3.ลงโทษลูกหนักเกินไป

เชื่อว่าพ่อแม่ทุกคนอยากให้ลูกเติบโต มาเป็นคนที่ดีของสังคม เด็ก ๆ ควรได้รับการลงโทษเมื่อทำผิดเป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว แต่วิธีการลงโทษ ก็ควรเหมาะสม กับความผิด

ของลูกด้วย เพราะบางครั้งลูกอาจทำผิดด้วยความไม่รู้ จึงไม่จำเป็นต้องลงโทษทุกครั้งแต่เริ่มต้นลูกด้วยการตักเตือน อธิบายให้ลูกเข้าใจถึงความผิด และถ้าหลังจากนั้น

ลูกยังดื้อทำผิดซ้ำ ๆ ก็ควรหาวิธีลงโทษลูกด้วยความเหมาะสมกับวัยหรือความผิด โดยหลีกเลี่ยงการใช้ความรุ น แ ร ง

4.ตามใจลูกมากเกินไป

ตามใจในที่นี้ คือการปล่อยให้ลูกอยากทำอะไรก็ทำ โดยไม่คำนึงถึง ความถูกต้อง ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าหากปล่อยลูกให้ทำแบบนี้เป็นสิ่งที่ไม่ดี ก็ยังตามใจลูกให้ทำและไม่สอนลูก

ในสิ่งที่ควรหรือไม่ควรทำโดยคิดว่าเมื่อโตขึ้นลูกจะเรียนรู้ถูกผิดได้เองซึ่งความคิดในการเลี้ยงลูกด้วยวิธีนี้เป็นสิ่งที่จะทำให้ลูก ติดนิสัยไปจนโตได้ เพราะเด็กยังไม่รู้จักการ

แยกแยะด้วยตนเอง ดังนั้นพ่อแม่จึงไม่ควรปล่อย ลูกให้หรือตามใจลูกจนเกินพอดี และควรจะเป็นฝ่ายที่สอนลูกก่อนจะสายเกินไป

5.เอาใจเกินพอดี

เอาใจเกินพอดีตอบสนองลูกด้วยการให้มากเกินไป ทั้งวัตถุและสิ่งของ เพราะหวังจะให้ลูกมีความสุข แต่กลายเป็นว่าสิ่งที่พ่อแม่นั้น กลับส่งเสริมให้ลูกไม่รู้จักพอ

ไม่รู้จักความยากลำบากและการอดทนรอคอย ไม่ยอมรับกับความผิดหวัง ไม่เห็นคุณค่าของสิ่งที่ได้มากลายเป็นเด็กเอาแต่ใจตัวเอง และสุดท้ายลูกก็จะไม่มองเห็น คุณค่า

ของคนอื่นด้วย การสปอยล์ลูกแบบนี้จะส่งผลให้ลูกอยู่ยากในสังคมเมื่อเขาเติบโตขึ้น

6.ให้ท้ายลูก ให้อภัยลูกแบบผิด ๆ

คุณพ่อคุณแม่ ควรเลิกคำพูดติดปากว่า ” เขายังเด็ก ” “อย่าถือสาเด็กเลย ” เพื่อปกป้องเวลาลูกทำผิดโดยไม่สนใจเหตุผล ควรสอนให้ลูกทราบถึงเหตุผล และยอมรับความจริง

หากทำผิดต้องขอโทษและไม่ทำผิดซ้ำอีก เพราะยิ่งถ้าสอนลูกตั้งแต่ยังเล็กจะง่ายกว่า สอนตอนเด็กโตแล้ว นอกจากนี้คุณพ่อคุณแม่ควรพูดและปฏิบัติกับลูกในมาตรการที่ตรงกัน

เพื่อไม่ให้เด็กเกิดความสับสน

อาการของเด็กเมื่อถูกสปอยล์มากเกินไป

– อารมณ์ร้อนเกรี้ยวกราด บ่อยครั้ง ลูกมักแสดงอาการฉุนเฉียว กรีดร้อง โ มโ ห ร้ า ย อยู่บ่อยครั้ง

– กระทืบเท้า ปิดประตูเสียงดัง ลูกมีอารมณ์ โ ม โ ห ร้ า ย อยู่บ่อยครั้ง ระบายอารมณ์ผ่านทางการ ทำ ล า ย ข้าวของต่าง ๆ

– ต้องมี ข้อแลกเปลี่ยนเสมอ เมื่อคุณพ่อคุณแม่ต้องการให้ลูกทำอะไร มักสร้างเงื่อนไขเพื่อเป็นแรงจูงใจให้ลูกปฏิบัติตามแต่หากทำบ่อยครั้งอาจไม่เป็นผลดีต่อเด็กค่ะ

เพราะต้องสอนให้ลูกรู้จักหน้าที่ มีระเบียบวินัยและสิ่งที่ต้องทำ

– หวงของ ควรสอนให้รู้จัก แ บ่ ง ปั น สิ่งต่าง ๆ จะช่วยพัฒนาทักษะ ทางด้านอารมณ์และจิตใจ เอาแต่ใจจะค่อย ๆ ดีขึ้นตามลำดับ

คำแนะนำ ที่ช่วยให้เลี้ยงดูเด็กแบบไม่ สปอยล์ลูก กำหนดขอบเขตที่เหมาะสม กับวัยของลูกเพื่อให้เด็ก ๆ ใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่ โดยคุณพ่อคุณแม่สามารถเริ่มได้ตั้งแต่ในช่วงวัยเตาะแตะ

– กำหนดขอบเขตด้านความปลอดภัย ภายนอก ตัวอย่างเช่น: “อย่าแตะต้องเตาร้อน” และ “อย่าวิ่งเข้าไปในถนน” ถ่ายทอดสิ่งที่เป็นที่ควรทำและไม่ควรทำ พูดคุยถึงเหตุผล

บอกถึงปัญหาที่จะตามมาหากทำสิ่งนั้น และ เสริมสร้างพฤติกรรมทางสังคมเชิงบวกในลักษณะเดียวกัน สั่งสอนลูกถึงสิ่งที่ควรปฏิบัติ เช่น กล่าวขอโทษและขอบคุณ

หรือเล่นอย่างอ่อนโยนกับเพื่อน ควรหมั่นเสริมสร้างพฤติกรรมเชิงบวกให้ลูก มากกว่าพฤติกรรมเชิงลบ

– พูดคุยกับลูกอย่างเปิดเผยและมีเหตุมีผล เกี่ยวกับพฤติกรรมเมื่อพวกเขาโตขึ้น “เด็กในวัยเรียนและวัยรุ่นสามารถเข้าใจ คำพูดได้ดีกว่าเด็กเล็ก ดังนั้นให้ พ ย า ย า ม

คิดพูดคุยปัญหาร่วมกัน เช่นเมื่อลูกทำผิดให้คุณพ่อคุณแม่ถามลูกว่า “ทำไมลูกถึงทำเช่นนี้”เด็กอาจไม่สามารถบอกคุณได้ แต่ถ้าพูดว่า “พ่อ/แม่สงสัยว่าทำไมสิ่งนี้ถึงเกิดขึ้นอีก”

คำถามปลายเปิดอาจทำให้ลูกรู้สึกสะดวกใจ และเล่าให้ฟังอย่างไม่เกร็งได้ คำตอบของลูกในบางครั้งอาจทำให้คุณพ่อคุณแม่แปลกใจก็เป็นได้

– อยู่ในความสงบ ระงับสติอารมณ์ เมื่ออารมณ์เสีย แม้แต่ผู้ใหญ่เอง ก็อาจแสดงพฤติกรรมที่ไม่ดีออกมา จะทำให้คุณพ่อคุณแม่รู้สึก
แ ย่ และควบคุมตัวเองไม่ได้ (เหมือนเด็กนิสัยเสีย)

และการแสดงพฤติกรรมไม่ดีเหล่านี้ ไม่ได้สอนให้เด็ก มีพฤติกรรมดีขึ้น แถมอาจทำให้เกิดพฤติกรรมเลียนแบบอีกด้วย

– คงเส้นคงวา เป็นตัวอย่างที่ดีให้ลูกอย่างสม่ำเสมอ

– มีกฎระเบียบร่วมกันที่ดี เพื่อให้อยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขครอบครัว คือจุดเริ่มต้นของสังคม จึงควรมีกฎที่อยู่ในข้อตกลงร่วมกัน เพื่อให้ลูกปฏิบัติตาม และแจ้งให้ทราบว่าถ้าลูก

ไม่ปฏิบัติตาม จะมีผลตามมาสำหรับพฤติกรรมบางอย่าง เช่น ถ้าลูกเล่นของเล่นแล้วไม่เก็บ แม่จะเก็บของนี้แล้วไม่ให้เล่นอีกนะ หรือวางของเกะกะอาจทำให้เกิด อุ บั ติ เ ห ตุ ได้ เป็นต้น

สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับการปลูกฝังนิสัยที่ดีให้ลูก คือการเริ่มต้นแต่เนิ่น ๆ และทำอย่างสม่ำเสมอ เพื่อกำหนดขีดจำกัด ทำความเข้าใจความต้องการด้านพัฒนาการของทารกและเด็กเล็ก

อาจจะต้องใช้เวลาแต่จะเกิดผลดีต่อตัวเด็กใน ร ะ ย ะ ย า ว

แน่นอนว่าการเลี้ยงลูกด้วยวิธีแบบนี้ ย่อมไม่ส่งผลดีทั้งต่อตัวลูกและพ่อแม่ การสปอยลูกมากเกินไปอาจทำให้เด็กโตขึ้นเห็นแต่ประโยชน์ของตนเอง และไม่คำนึงถึงความรู้สึก

ของคนอื่นหรือประโยชน์ของสังคมส่วนรวม ดังนั้น ถ้าพ่อแม่อยากเลี้ยงลูกแบบมีคุณภาพลองมองดูว่าตัวเอง เข้าข่ายพฤติกรรมเหล่านี้หรือไม่ ควรหยุดสปอย์ลูกแบบไม่มีเหตุผล

และหาวิธีเลี้ยงลูกอย่างถูกหลักก่อน ที่จะสายเกินแก้ และเพื่อให้ลูกได้เติบโตมาเป็นคนดี มีคนที่รัก อยู่ในสังคมที่เขาจะเติบโตขึ้นมาได้อย่างมีความสุขนะคะ

ขอขอบคุณ t h.t h e a s i a n p a r e n t.

Load More Related Articles
Load More By sabailey99
Load More In ข้อคิด

Check Also

(ข้อดีของคนโสด) การได้ใช้ชีวิตอยู่คนเดียว..มันมีความสุขกว่าที่คิด

การดำเนินชีวิตอยู่ร่วมกัน เลือกที่จะสร้างครอบครัวอยู่แบบเป็นคู่ แบบเป็นครอบครัว เป็นสิ่งที…