
1. ตรงต่อเวลา
แน่นอนว่า อะไรก็เกิดขึ้นได้เสมอ ไม่ว่าจะเป็นรถติด รถเสีย หรืออะไรก็ตามแต่ แต่การที่คุณสายเป็นประจำ มันแสดงให้เห็นว่า เวลาของคุณมีค่ามากกว่าเวลาของคนอื่น
อีกทั้ง มันยังเป็นการเสียมารยาทอีกด้วย หรือแม้ว่าคุณจะคิดว่าเวลาของคุณสำคัญกว่าของคนอื่นจริงๆ คุณก็ไม่จำเป็นต้องป่าวประกาศให้โลกรู้ สิ่งที่คุณควรทำก็คือ เอาใจเขามาใส่ใจเราและเป็นคนตรงเวลา
2. เห็นอก เห็นใจผู้อื่นอยู่เสมอ
การเห็นใจผู้อื่น เป็นเรื่องหนึ่ง ส่วนการแสดงความรู้สึกเห็นใจออกมาก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง มันเป็นเรื่องที่ดีหากคุณสามารถเข้าใจผู้อื่น แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า คุณจะเป็นคนที่เอาใจใส่ผู้อื่นหรอกนะ
การเอาใจใส่และเห็นใจผู้อื่นอย่างแท้จริงนั้นคุณจะต้องเข้าใจอีกฝ่ายเสมือน อยู่ในสถานการณ์เดียวกับเขา คุณอาจจะต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองบ้างในบางครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนพฤติกรรมของคุณ
เพื่อทำให้อีกฝ่ายรู้สึกดี หรือเสนอความช่วยเหลือในสถานการณ์ที่พวกเขารู้สึกย่ำ แ ย่ ก็ตาม
3. กล่าวขอโทษเมื่อจำเป็น (และไม่กล่าวพร่ำเพรื่อ)
มนุษย์เรามักกลัวเวลา ที่จะไปทำให้ใครคนอื่นรู้สึก แ ย่ และมักรู้สึกผิดพร้อมกล่าวคำขอโทษบ่อยครั้งบ่อยครา จนคุณค่าของคำขอโทษ นั้นอาจจะลดหลั่นลงไป
ซึ่งมันจะแตกต่างโดยสิ้นเชิงกับการขอโทษด้วยความจริงใจเมื่อครั้ง ที่คุณรู้สึกผิดจริงๆ หรือกล่าวเพราะรู้สึกจำเป็น การขอโทษเป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่งของการเป็นคนที่เอาใจใส่ผู้อื่น
4. ยิ้มบ่อยๆ
ในหลักการทางกายภาพแล้ว การทำหน้าบึ้ง มักจะง่ายกว่าการยิ้ม เนื่องการยิ้มนั้นต้องใช้กล้าม เ นื้ อ ถึง 24 มัดด้วยกัน แต่อย่างไรก็ตาม การยิ้มก็ให้ผลดีเสมอ อีกทั้งยังก่อให้เกิดผลที่ดีมากๆ ต่อบุคคลอื่น
ในขณะที่คุยกับผู้อื่น มนุษย์เรามักจะปฏิบัติตัวเหมือนเป็นกระจก สะท้อนฝ่ายตรงข้ามโดยที่คุณเองก็ไม่รู้ตัว ดังนั้นเมื่อคุณยิ้มให้ผู้อื่น เขาก็จะได้รับความรู้สึกดีๆ เหล่านั้นไปโดยที่เขาเองก็ไม่รู้ตัวเช่นกัน
5. มีมารยาท
มีหลายท่านที่ผมรู้จักคิดว่า มารยาทเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็น อีกทั้งยังมองว่าเป็นสิ่งที่ไร้สาระอีกด้วย เพราะมันคือการเสแสร้างแกล้งทำ กลุ่มคนเหล่านี้จะเชื่อว่า การมีมารยาทคือการแสดงออกในสิ่งที่ไม่ใช่ตัวเอง
ซึ่งพวกเขากำลังเข้าใจผิด เพราะการมีมารยาทคือ การให้ความสำคัญกับความรู้สึกของผู้อื่น ไม่ใช่แค่ความรู้สึกของตัวคุณ เองเท่านั้น มันคือการแสดงออกที่ตั้งใจจะทำให้ผู้อื่นรู้สึกสบายใจ
6. มีความฉลาด ทางอารมณ์
หนึ่งในความเชื่อผิดๆ ในสังคมเราคือ รู้สึกเช่นไร ก็ต้องแสดงออกไปเช่นนั้น ซึ่งมันไม่ถูกต้องเสียทั้งหมด เพราะมันยังมีสิ่งหนึ่งที่เรียกว่า การควบคุมตัวเอง
ตัวอย่างเช่น การทำตัวเป็นมิตรกับคนที่ดูเหมือนว่าไม่ได้อยากจะเป็นมิตรกับคุณเท่าไหร่นัก ซึ่งการเป็น คนที่ใส่ใจผู้อื่นนั้น คือการเลือกไม่แสดงออกในสิ่งที่คุณรู้สึกจริงๆ นั่นเอง
7. พยายาม ผลักดันให้ผู้อื่นเป็นผู้ชนะ
หลายๆ คนชอบใช้ชีวิต ในแบบที่ต้องมีผู้แพ้และผู้ชนะ ส่วนคนที่ใส่ใจผู้อื่นจะไม่พยายามมองหาผู้แพ้หรือผู้ชนะ แต่พวกเขาจะพยายามผลักดันให้ทุกคนเป็นผู้ชนะให้ได้
มันไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปได้ง่าย แต่มันก็คือเป้าหมาย หากคุณต้องการเป็น คนที่เอาใจใส่ผู้อื่น คุณต้องล้มเลิกความคิดที่ว่าชีวิตคนเราต้องมีผู้แพ้หรือผู้ชนะได้แล้ว
8. แสดงความช่วยเหลือให้กับผู้อื่น
บางครั้งคุณสามารถรู้ได้ว่าเขากำลังโมโห หรือกำลังรู้สึก แ ย่ เพราะฉะนั้นการเป็นคนเอาใจใส่ผู้อื่นจึงหมายถึง การที่คุณรู้ว่าใครกำลัง ต้องการความช่วยเหลือจากคุณอยู่
ซึ่งเมื่อคุณลงมือให้ความช่วยเหลือ พวกเขาแล้ว พวกเขาจะประทับใจในความห่วงใยของคุณอย่างมากเลยทีเดียว
การเป็นคนที่เอาใจใส่ผู้อื่น เป็นเรื่องที่ดีทั้งด้าน ร่ า ง ก า ย และจิตใจ อีกทั้งยังส่งผลดีต่อหน้าที่การงาน และคนรอบข้างคุณด้วย และเหนือสิ่งอื่นใด คุณเองก็รู้สึกดีไม่น้อยไปกว่าใครเลย
ขอขอบคุณ s u m r e j