Home ข้อคิด อยากพิชิตใจเพื่อนร่วมงาน..ให้เป็นที่รักของทุกคน จะทำอย่างไรดี?

อยากพิชิตใจเพื่อนร่วมงาน..ให้เป็นที่รักของทุกคน จะทำอย่างไรดี?

6 second read
0
0

ในชีวิตการทำงาน ใคร ๆ ก็อยากจะเป็นที่รัก เป็นที่ยอมรับของเพื่อนร่วมงานกันทั้งนั้น แต่การจะเป็นที่ยอมรับของคนที่หลากหลายทั้งวัยต่างกัน ตำแหน่งต่างกัน ล้วน

ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมและการปฏิบัติต่อผู้อื่นของเราทั้งสิ้น ฉะนั้น ถ้าจะอยู่ให้เป็น ก็ต้องวางตัวให้เป็นที่รักที่เอ็นดูของเพื่อนร่วมงานในออฟฟิศให้ได้ นอกจากจะทำงาน

กันได้อย่างสมัครสมานสามัคคีแล้ว ยังสร้าง บ ร ร ย า ก า ศ ที่ดีในการทำงานอีกต่างหากซึ่งการจะพิชิตใจเพื่อนร่วมงานให้ได้นั้นไม่ได้ยากอย่างที่คิด มาดูกันดีกว่าว่า

มีวิธีไหนบ้างที่จะทำให้เราเป็นคนน่ารัก เป็นที่เอ็นดูในสายตาเพื่อนร่วมงานในออฟฟิศได้บ้าง

1. รอยยิ้มสร้างมิตรภาพ

แค่รอยยิ้มนี่แหละคือจุดเริ่มต้นของมิตรภาพที่ดี ไม่เชื่อลองดูสิ กับคนแปลกหน้าที่ไม่เคยทักทายพูดคุยกัน ยิ้มให้กันแค่ครั้งเดียว เดี๋ยวก็ได้เริ่มต้นสนทนากัน เพราะ

การยิ้มเพื่อทักทายผู้อื่นถือเป็น ม า ร ย า ท ในการเข้าสังคมรูปแบบหนึ่ง เมื่อเจอหน้าก็ยิ้มแย้มแจ่มใส พูดจาสวัสดีทักทาย ดูน่ารักจะ ต า ย การกระดกมุมปากขึ้นนั้น

ทำไม่ยากและไม่เสียเงินเลยสักบาท แต่ได้มิตรภาพและ บ ร ร ย า ก า ศ ที่น่านั่งทำงานกลับมา

2. แสดงความจริงใจ

ถ้าอยากจะให้ใครเชื่อใจ ไว้ใจ เราก็ต้องแสดงความจริงใจให้เขาเห็นก่อน เมื่อใดก็ตามที่เราส่งสัญญาณให้อีกฝ่ายรู้ว่าเรามาอย่างเป็นมิตรและจริงใจต่อเขา เขาก็รับรู้ได้

มอบน้ำใจเล็ก ๆ น้อย ๆ เป็นการ ซื้ อ ใจ ในบางโอกาส เปิดใจรับความแตกต่าง หากมีปัญหาก็รีบเคลียร์ อย่าปล่อยเรื้อรังจนมีปัญหากระทบงาน นึกไว้เสมอว่าในเมื่อ

เราจริงใจไป ก็ย่อมได้ความจริงใจกลับมา ตรงกันข้าม ถ้าเรา เ ส แ ส ร้ งแ ก ล้ งทำ จะไปหวังความจริงใจจากใคร

3. อย่ายกตนข่มท่าน

การที่เราเป็นคนเก่ง เป็นมีความสามารถ มันมีวิธีมากมายในการนำเสนอตัวเองว่าฉันเก่ง ต้องไม่ต้องโอ้อวด เกทับ หรือ ทำ ร้ า ย ความรู้สึกคนอื่น ๆ ด้วยการทำตัวเหนือกว่า

ทำแบบนั้นไม่มีใครเขาชอบหน้าแน่นอน แถมยัง ห มั่ น ไ ส้ อีกด้วย การพิสูจน์ความสามารถให้เป็นที่ประจักษ์ต่างหากที่จะทำให้คนอื่นยอมรับอย่างสมัครใจ เราไม่จำเป็นต้อง

เ ห ยี ย บ หั ว ใครเพื่อความสำเร็จหรอกนะต่อให้เก่งแค่ไหน ถ้ามีแต่คนไม่ชอบหน้า ทำอะไรก็มีแต่คนเบ้ปากใส่ ชีวิตก็อยู่ยาก

4. ช่วยเหลือตามโอกาส

การทำงานเป็นทีม คือการร่วมมือร่วมใจกันทำงาน ไม่ใช่ว่าต่างคนต่างทำโดยไม่สนใจเพื่อนร่วมทีมเลย ฉะนั้น หากเพื่อนร่วมทีมมีปัญหา สิ่งไหนที่พอจะช่วยได้ก็ช่วย

หรือถ้าใครงานล้นมือแล้วเราสะดวก ก็ลองเสนอให้ความช่วยเหลือตามโอกาส แต่ไม่ใช่เอาหน้าโดยที่งานตัวเองไม่เสร็จ การยื่นมือไปช่วยเหลือผู้อื่นบ้าง สักวันหนึ่ง

เราจะได้รับสิ่งดี ๆ กลับมาเช่นกัน หาโอกาสเป็นที่พึ่งพาให้กับเขาบ้างเท่าที่จะทำได้ เช่น รับฟัง ให้คำปรึกษา ช่วยแก้ไข เป็นต้น

5. พ ย า ย า ม เข้าใจความต่าง

ในการทำงาน การไม่ลงรอยกับเพื่อนร่วมงานถือเป็นเรื่องที่ปกติธรรมดามาก ไม่ว่าจะเป็นนิสัยส่วนตัว ทัศนคติ หรือวิธีการทำงาน ในเมื่อเราต่างมีจุดหมายเดียวกัน

ในการทำงาน ก็อย่าเพิ่งตัดสินใครจากสิ่งที่เห็น พ ย า ย า ม เข้าใจความเป็นเขา และความต่างของเขา ตราบใดที่นิสัยของเขา ทัศนคติ หรือวิธีการทำงานเขาไม่ได้ทำให้

เราเดือดร้อน ก็ พ ย า ย า ม ปล่อยผ่าน แล้วมุ่งที่ความสำเร็จของงานจะดีกว่า

6. อย่าหน้าไหว้หลังหลอก

ไม่มีใครชอบพวกหน้าไหว้หลังหลอกหรอก ต่อหน้าแสนดี แต่ลับหลังเที่ยวเอาเรื่องของคนอื่นไปเป็นหัวข้อนินทา การนินทานำมาซึ่งความแตกแยกและไม่เคยให้ผลดี

ยิ่งถ้าเขารู้ทีหลัง จะ ทำ ลา ยความเชื่อใจกันเปล่า ๆ คิดไว้เสมอว่าเราไม่ชอบให้ใครเอาเรื่องของเราไปนินทาเสีย ๆ หาย ๆ ก็อย่าทำกับคนอื่น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องจริงหรือ

เรื่องเท็จก็ตาม ถ้าเป็นเรื่องจริงเท่ากับประจานแต่ถ้าเป็นเรื่องเท็จก็คือใส่ ร้ า ย ป้ายสีดี ๆ นี่เอง

7. ไม่ทำตัวเป็นภาระ

ทุก ๆ ออฟฟิศจะมีคนจำพวกหนึ่งที่เป็นพวก “มือไม่พายเอาเท้าราน้ำ” หรือง่าย ๆ ก็คือ ตัวถ่วงความเจริญของทีม ในเมื่อโตถึงขั้นทำงานทำการแล้ว ก็ควรจะมีความรับผิดชอบ

หน้าที่ของตัวเอง ทำงานให้เสร็จภายในเวลาที่กำหนด อย่าเที่ยวปัดความรับผิดชอบให้เพื่อนร่วมงานรับภาระ แต่พองานเสร็จก็โผล่มาเอาหน้า ไม่มีใครอยากจะร่วมงานกับคน

ที่ชอบเอาเปรียบคนอื่น ถ้าไม่ทำตามหน้าที่ คนอื่นก็มีภาระงานเพิ่ม รับงานแล้วอย่าดอง อย่ากินแรง อย่าเป็นตัวถ่วงใคร

8. เคารพและให้เกียรติผู้อื่นเสมอ

การจะอยู่ร่วมกันได้อย่างเป็นสงบสุข คือการที่ต่างคนต่างเคารพและให้เกียรติซึ่งกันและกัน โดยเฉพาะกับเพื่อนร่วมงาน เพราะเขาไม่ใช่เพื่อนกินเพื่อนเที่ยวที่จะเฮฮาไปกับเรา

แต่เราร่วมงานกันโดยมีวัตถุประสงค์คือความสำเร็จของงาน ดังนั้น ต้องเคารพและให้เกียรติในตัวตน ความคิดเห็น และเวลาของเขาเสมอ อย่าทำอะไรที่เป็นการละเมิดสิทธิ์

หรือ ห ย า บ ค า ย ต่อเขาหรือทำอะไรไร้ความเกรงใจ แบบนั้นไม่มีใครเขาปลื้มแน่

9. ความเกรงใจเป็นสมบัติของผู้ดี

นอกจากเคารพและให้เกียรติกันแล้ว ความเกรงใจเป็นอีกสิ่งที่ต้องมีให้กัน อย่างที่เขาว่ากันว่าความเกรงใจเป็นสมบัติของผู้ดีนั้นคือถูกต้องที่สุด และใช้ได้กับทุกคน

ทุกสถานการณ์เป็น ม า ร ย า ท พื้นฐานในการเข้าสังคม ยิ่งกับคนที่ไม่สนิทชิดเชื้อ ยิ่งต้องระวังการกระทำให้มาก ไม่เช่นนั้นอาจไปสร้างความไม่พอใจ สร้างความเดือดร้อน

ให้เขาได้ พึงกระทำในขอบเขตที่ตัวเองมีสิทธิ์ โดยไม่ละเมิดสิทธิ์ใคร และไม่ทำให้ใครเดือดร้อน

10. ลดอีโก้ลงมาบ้าง

อีโก้ เป็นอุปสรรคอีกอย่างหนึ่งของการทำงานร่วมกัน คนที่เชื่อมั่นแค่ตัวเอง ไม่ฟังใคร หยิ่งทะนง โลกส่วนตัวสูง ซีเรียสอยู่ตลอดเวลาจนใครก็เข้าไม่ถึง ไม่สามารถ

ทำงานร่วมกับใครได้อย่างราบรื่นหรอก ฉะนั้น ปล่อยวางบ้าง จริงจังเวลาทำงาน เวลาพักก็หามุกตลกมาเล่น ชวนคนอื่นคุย จะทำให้ดูเข้าถึงง่ายและน่าคบค้าสมาคมขึ้นเยอะ

พ ย า ย า ม เป็นกันเองกับเพื่อนร่วมงานทุกคน แต่อย่าลามปามจนล้ำเส้นใคร และก็ต้องไม่ยอมให้ใครมาล้ำเส้นเหมือนกัน

ขอบคุณที่มา : s a n o o k . c o m

Load More Related Articles
Load More By sabailey99
Load More In ข้อคิด

Check Also

10 ข้อที่บอกว่า ผู้หญิงนิ่งๆ ไม่ค่อยพูด..พวกเธอมีเสน่ห์ล้นเหลือมาก

1. ‘ความถ่อมตัว’ ของเธอน่ะมีเสน่ห์ม้าก มาก สาวขี้อายหลายคนมักมีคุณสมบัติหนึ่ง นั่นคือ ‘ คว…