
ในสมัยที่ยังมีการ ข ย า ย อณาเขตด้วยการใช้กำลังทหารต่อสู้กัน ที่หัวเมืองใหญ่แห่งหนึ่งได้มีแม่ทัพที่เก่งทั้งในการรบและยังเก่งในการเล่นหมากล้อม เขาชอบการ
เล่นหมากล้อมมาก ตั้งแต่เขาแข่งกับทหารหลายๆ นายในทัพของเขาก็ยังไม่มีใครเอาชนะเขาได้เลยอยู่มาวันหนึ่ง แม่ทัพต้องนำทัพไปป้องกันการุกรานของ ศั ต รู
ในระหว่างเส้นทางก็ได้ ผ่าน ห มู่ บ้านน้อยใหญ่ แต่เขากลับต้องมาสะดุดกับบ้านหลังหนึ่งที่เขียนป้ายไว้ว่า “หมากล้อมอันดับ 1 “ ทำให้แม่ทัพรู้สึกไม่ค่อยพอใจ เพราะ
เขาคิดว่าตัวเองเก่งที่สุดแล้วในเรื่องนี้จึงให้ทหารพักแรมที่ ห มู่ บ้านนี้ก่อนหนึ่งคืน แล้วแม่ทัพก็ได้ไปท้าประลองเจ้าของบ้านหลังนี้เล่นหมากล้อมเมื่อเล่นไปจนครบ 3 ตา
ผลปรากฏว่า แม่ทัพสามารถเอาชนะเจ้าของบ้านได้ทั้ง 3 ตารวด เป็นที่น่าพึงพอใจของแม่ทัพและเหล่าทหารเป็นอย่างมาก แม่ทัพจึงหัวเราะด้วยความดีใจ และพูดกับเจ้าของบ้านว่า
“ต่อจากนี้ไป ท่านต้องเอาป้ายที่ติดไว้ลงแล้วล่ะ เพราะท่านไม่ใช่อันดับ 1 แน่นอน” จากนั้น แม่ทัพก็นำทัพไปต่อ เมื่อเสร็จสิ้น จากการทำศึก แม่ทัพก็ได้รับชัยชนะกลับมา
และระหว่างเดินทางกลับเข้าเมือง ก็ได้ผ่าน ห มู่ บ้านแห่งเดิม และยังเห็นป้ายขึ้นไว้เหมือนเดิม “หมากล้อมอับดับ 1” แม่ทัพจึงรีบเข้าไปถามเจ้าของบ้าน “ท่านแพ้ข้าถึง 3 ตารวด
แล้วทำไมยังไม่เอาป้ายลงอีก” เจ้าของบ้านจึงได้ท้าแม่ทัพแข่งกันอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ผลกลับไม่เป็นอย่างที่คิดเจ้าของบ้านสามารถเอาชนะแม่ทัพได้สบายๆ 3 ตารวด
แม่ทัพได้แต่อึ้งและนั่งนิ่งไม่คิดว่าตัวเองจะแพ้เสียท่าได้เจ้าของบ้านจึงพูดขึ้น “ที่ข้าไม่เอาป้ายลง เพราะข้าเล่นหมากล้อมอันดับ 1 จริงๆแต่ที่ข้าแพ้ให้กับท่านครั้งก่อน
เป็นเพราะข้าตั้งใจ ให้ท่านชนะ ข้ารู้ว่าท่านกำลังไปออกรบเพื่อบ้านเมืองของเรากำลังใจของแม่ทัพ เป็นสิ่งสำคัญ ถ้าท่านเล่นแพ้ข้าตั้งแต่ก่อนที่จะไปออกรบ ท่านอาจจะเสียขวัญ
และกำลังใจที่จะรบเมื่อท่านรบแพ้ ข้าอาจไม่มีบ้าน ให้อาศัยอยู่ เราอาจไม่ได้มานั่งประชันฝีมือกันอีกรอบแต่ครั้งนี้ท่านรบได้ชัยชนะกลับมาแล้ว ข้าจึงไม่จำเป็นที่จะออมมือให้ท่านอีก”
คนฉลาด คือ คนที่รู้ว่าชนะได้ แต่ไม่จำเป็นต้องชนะ เสมอไป
คนเก่ง เขารู้ความสามารถของเขาเอง แต่ไม่จำเป็นต้องแสดงให้รู้ว่าเก่งกับทุกคน ทุกเวลา เพราะเขารู้ว่าการเอาชนะ กับบางเรื่องที่ไม่ทำประโยชน์อะไรก็ไม่จำเป็น
ที่จะต้องไปเอาชนะให้เสียเวลา
ขอขอบคุณ b i t c o r e t e c h