
1. แกล้งโง่ทำให้มีเวลามากขึ้น
คนอวดฉลาด ไม่ว่าอยู่ที่ใดก็มักต้องทำงานมากกว่าคนอื่น หากอยู่ที่ทำงาน ไม่เพียงงานของตนเองจะมากกว่าเพื่อนร่วมงานเท่านั้น ยังมักต้องคอยช่วยเหลืองานคนอื่นจนกลายเป็น
เจเนรัลเบ๊ ของที่ทำงานไปโดยปริยายเมื่ออยู่บ้านแทนที่จะได้พักผ่อนแต่กลับต้องทำโน่นทำนี่ จนกลายร่างเป็น คุณแจ๋ว ไม่ต่างจากตอนอยู่ที่ทำงานตรงกันข้าม กับคนที่ถูกมองว่าโง่
หรือทำอะไรไม่เป็น ก็จะได้ทำแต่หน้าที่ ของตนเองเท่านั้น เมื่อไม่ต้องยุ่งวุ่นวายกับงานของคนอื่น จึงมีเวลามากพอ สำหรับทำเรื่องที่จำเป็นมากกว่า
2.แกล้งโง่ทำให้ชีวิตสบายขึ้น
ผู้หญิงที่ทำกับข้าวเก่ง ทำงานบ้านเก่ง ก็มีแนวโน้มว่า เมื่อแต่งงานไปแล้ว จะต้องเป็นคนดูแลงานบ้านทุกอย่าง แม้ว่าจะต้องออกไปทำงานนอกบ้านด้วยก็ตามแต่ผู้หญิงที่ทำงานบ้านไม่เป็น
หรือแสดงออกว่าทำงานบ้าน ไม่เก่ง จะสามารถหลีกเลี่ยงงานน่าเบื่อนี้ไปได้
3.แกล้งโง่ทำให้ฉลาดขึ้น
อัญชุลี คิดว่าเธอเป็นคนฉลาด และเธออยากให้คนอื่นเชื่อ เช่นนั้นด้วย เธอจึงพยายามทำตัวเป็นคนฉลาด แน่นอน เธอจะไม่ยอมถามคำถามอะไรเด็ดขาดเพราะคนฉลาด
ย่อมรอบรู้ทุกเรื่องอยู่แล้ว เธอจึงไม่เคยกำจัดความสงสัย หรือความไม่รู้ทิ้งไปได้เลยส่วนวิชชุดา เธอเป็นคนประเภทตรงกันข้ามกับอัญชุลี เธอคิดว่าตนเองไม่ฉลาด
ซึ่งมันก็ส่งผลให้เธอไม่กังวลว่า ใครจะมองเธอว่าโง่เมื่อมีปัญหาหรือมีเรื่องที่ไม่เข้าใจ เธอกล้าที่จะถาม และขอคำแนะนำจากคนอื่น ทำให้ความสงสัยถูกกำจัดทิ้งไป
และถูกแทนที่ด้วยความรู้ วิชชุดาจึงรู้มากขึ้นในขณะที่อัญชุลียังคงไม่รู้อยู่เหมือนเดิมด้วย ความที่คนอวดฉลาด ต้องการสร้างภาพลักษณ์ ว่าตนเป็นคนฉลาด จึงทำให้ไม่กล้าพอ
ที่จะเอ่ยปากถามในสิ่งที่ตนไม่มีความรู้ เพราะกลัวว่าจะทำให้คนอื่นมองว่าตนเองโง่หารู้ไม่ว่า การไม่ถามหรือการพยายามทำตัวฉลาดนี่ล่ะ ตัวการสำคัญ ที่ทำให้เขากลายเป็นคน โง่
หากกล้ายอมรับว่าตนเองไม่รู้ และเอ่ยปากถามออกไป ไม่นานก็จะได้คำตอบที่ช่วยคลาย ความสงสัยได้ และความโง่ก็จะหายไป แต่หากไม่กล้าถาม ความสงสัยและความไม่รู้ก็
จะยังอยู่ตรงนั้นหากยอมเอ่ยปากถามคำถามที่ไม่เข้าใจออกไป ก็โง่เพียงวินาทีเดียว แต่การแกล้งทำตัวฉลาดไม่ยอมถามทั้งที่ไม่รู้ เหมือนเป็นการผูกตัวเองไว้กับความโง่ไปตลอดชีวิต
4. แกล้งโง่ทำให้พัฒนาตนเองได้มากขึ้น
คนอวดฉลาดที่หลงลำพอง ในตัวเอง มองว่าตัวเองรอบรู้ทุกด้าน และไม่จำเป็นต้องเรียนรู้อะไรเพิ่มเติมอีกแล้ว จะไม่สามารถพัฒนาตนเองได้อีก เหมือนกับอึ่งอ่าง ที่พองตัวอยู่ในกะลาแคบๆ
จนไม่สามารถขยับเขยื้อนตัวไปไหนได้ตรงกันข้ามกับคนแกล้งโง่ที่จะทำตัวเล็กลีบอยู่ตลอดเวลาไม่ว่าอยู่ที่ใดจึงไม่คับแคบ และยังสามารถเดินต่อไป ได้เรื่อยๆ โดยไม่เจอทางตัน
เพราะพวกเขาคิดว่า ยังมีสิ่งที่ต้องเรียนรู้อีกมาก จึงทำให้พวกเขาสามารถ พัฒนาตนเอง และก้าวหน้าต่อไปได้อีกในขณะที่คนอวดฉลาดจะยังคงอยู่ที่เดิม ซึ่งนับวัน ก็ยิ่งจะถอยหลังลงคลองไปทุกที
5. แกล้งโง่ทำให้รู้ข้อมูลมากขึ้น
อนันตชัยถูกใจผู้หญิง คนหนึ่งที่พบกันที่บาร์ เขาจึงเข้าไปคุยกับเธอ และแกล้งโง่เออออตามเธอทุกอย่าง เธอจึงคุยอะไรต่อมิอะไรให้เขาฟังมากมายตั้งแต่เรื่องหน้าที่การงานว่า
เธอทำงานอะไร มีปัญหากับเจ้านายอย่างไร มีเพื่อนสนิทกี่คน ครอบครัวมีใครบ้างเธอเคยมีแฟนมาแล้วเท่าไร ทำไมจึงเลิกกัน เธอชอบอะไร ไม่ชอบอะไรตลอดจนเธอ ไปศัลยกรรมจมูก
ที่ไหนบรรดาสายลับในหนัง เมื่อต้องปลอมตัวไปสืบข้อมูลต่างๆ ก็มักแกล้งทำเป็นคนซื่อๆ เหมือนคนที่ไม่รู้รื่องราว และไมมี พิ ษ ภั ย อะไรหรือพูดง่ายๆ คือแกล้งโง่นั่นเอง
ซึ่งมันก็ทำให้พวกเขาสามารถสืบข้อมูลที่ต้องการได้ง่ายขึ้น เพราะคนอื่นๆ ต า ย ใ จ จนไม่ทันได้ระวังตัวคุณสมบัติ ในการเป็นผู้ฟังที่ดีของคนแกล้งโง่สามารถล้วงความลับของใครต่อใคร
ได้มากมายเพราะเมื่อคนอื่นมองว่าคุณเป็นคนที่ไม่มี พิ ษ สงอะไร จะทำให้เขา ระวังตัวน้อยลงและกล้าเปิดปากพูดอะไรมากขึ้น คุณจึงสามารถรู้ข้อมูลทุกเรื่องที่อยากรู้ได้
เพียงแกล้งโง่เท่านั้น
6. แกล้งโง่ทำให้มีประสบการณ์ และได้เรียนรู้มากขึ้น
คนอวดฉลาดมักทำอะไรอยู่ในกรอบความฉลาด ของตนเอง และจะไม่ยอมทำอะไร เ สี่ ย ง ๆ หรือทำสิ่งที่ตนเอง หรือคนอื่นมองว่าเป็นเรื่องโง่ๆ เด็ดขาด ทำให้พวกเขาหมดโอกาส
ที่จะได้มีประสบการณ์ใหม่ๆ ไปอย่างน่าเสียดายถ้าไม่ยอมแกล้งโง่เปิดใจรับฟังบรรดาพนักงานขายทางโทรศัพท์ ก็คงไม่มีโอกาสรู้ว่า มี โ ป ร โ ม ชั่ น บัตรเครดิตดีๆ
ที่อาจช่วย ให้การใช้จ่ายในแต่ละเดือนคล่องตัวขึ้น ถ้าไม่ยอมแกล้งโง่ออกไปท่องเที่ยว โดยไม่วางแผนดูบ้าง ก็คงไม่เคยมีประสบการณ์สนุกๆ ถ้าไม่ยอมแกล้งโง่ทำเรื่องที่น่า เ สี่ ย ง ดูบ้าง
ก็คงไม่มีทางรู้ว่า ความล้มเหลวเป็นอย่างไร เมื่อไม่รู้จักความล้มเหลว ก็คงทำความรู้จักความสำเร็จได้ยาก
ขอขอบคุณ b a n g p u n s a r a