Home ข้อคิด 10 ลักษณะ ของคนที่จะเป็นมหาเศรษฐี

10 ลักษณะ ของคนที่จะเป็นมหาเศรษฐี

18 second read
0
0

W.Randall Jones เขียนหนังสือชื่อ The Richest Man In Town โดยการสัมภาษณ์และวิเคราะห์คุณสมบัติ นิสัย แนวความคิด ปรัชญาการใช้ชีวิต และอื่น ๆของคนที่

รวยที่สุดในเมืองต่าง ๆ ของอเมริกาจำนวน 100 คน เขาพบลักษณะร่วมของคนที่เป็นมหาเศรษฐี 12 ประการ มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง

1. ไม่หาเงินเพื่อเงิน

การทำอย่างนั้นคุณจะไม่ได้เงิน เงินจะมาก็ต่อเมื่อคุณทำในสิ่งที่ถูกต้อง และด้วยวิธีที่ถูกต้อง ทำในสิ่งที่คุณรักและมีความหลงใหลที่จะทำ คุณต้องทำในสิ่งที่มีคุณค่า

เป็นประโยชน์ แล้วเงินจะมาเองมันเป็นผลพลอยได้ ในมุมของ VI หรือนัก ล ง ทุ น เน้นคุณค่า ผมคิดว่ามันถูกต้องตรงกัน อย่า
ล ง ทุ น แบบจ้องหาหรือหมกมุ่นกับผล

ตอบแทนเกินไป มีความสุขกับการ ล ง ทุ น ทำหรือเลือก ล ง ทุ น อย่างถูกต้อง เงินจะมาเอง

2. รู้ว่าตัวเองเป็นอะไร

รู้จุดอ่อนจุดแข็งของตัวเอง ที่สำคัญต้องรู้ว่า อะไรคือความสามารถหรือความเชี่ยวชาญที่สุดของตัวเอง ถ้าคุณคิดว่าต้องไปทำงานทุกวัน นั่นก็ผิดแล้วงานจะไม่ใช่งาน

ถ้าคุณทำแล้วมีความสุขและเป็นสิ่งที่คุณอยากทำ วอเร็น บัฟเฟตต์เคยบอกกับซูซี่อดีตภรรยาที่ล่วงลับไปในตอนที่แต่งงานกันใหม่ ๆ ว่า เขาจะต้องรวยเหตุผลไม่ใช่

เพราะเขาทำงานหนักหรือมีความเก่งเป็นพิเศษ แต่เป็นเพราะเขาเกิดมาด้วยทักษะที่ถูกต้อง ในสถานที่ที่ถูกต้อง และในเวลาที่ถูกต้อง นั่นคือ ทักษะในการจัดสรรเงินทุน

หรือก็คือ การ ล ง ทุ น นั่นเอง

3. เป็นนายของตัวเอง

คุณไม่สามารถรวยได้โดยการทำงานให้คนอื่นเรื่องนี้ผมคงไม่ต้องอธิบายกับ Value Investor เพราะนัก ล ง ทุ น นั้น ทุกคนเป็นนายของตัวเอง

4. เ ส พ ติดความ ท ะ เ ย อ ท ะ ย า น

คนเราทุกคนต่างก็ เ ส พ ติดอะไรบางอย่างหรือหลายอย่างในชีวิต เราติดกาแฟ ติด Internet ติด เ ห ล้ า ติด เ ซ็ ก ส์ ติดอำนาจ เราต้องคิดว่าติดอะไรแล้วจะเป็นประโยชน์

มหาเศรษฐีบอกว่า “ไม่มีความมั่งคั่งถ้าไม่มีความ ทะ เ ย อ ท ะ ย า น ” ทำอะไรสำเร็จแล้วก็ต้อง พ ย า ย า ม ทำให้สูงขึ้นเรื่อย ๆ อย่างไรก็ตาม ความ ท ะ เ ย อ ท ะ ย า น นั้น

มี ด้านมืด มันอาจทำให้เรามีความมั่นใจในตัวเองสูงเกินไปและเป็น อั น ต ร า ย ความ ท ะ เ ย อ ท ะ ย า น นั้นควรจะมีวัตถุประสงค์ชัดเจนและเราจะต้องไม่ปล่อยให้มัน

อยู่เหนือการควบคุมของเรา

5. ตื่นเช้า มาถึงก่อน เริ่มตั้งแต่อายุน้อย

ในเรื่องของการทำงานทั่วไปและในฐานะของผู้บริหารหรือผู้ประกอบการนั้นผมคิด ว่าต้องทำทั้งสามเรื่อง แต่ในเรื่องของการ ล ง ทุ น นั้น ผมคิดว่าการเริ่มตั้งแต่อายุน้อยนั้น

เป็นสิ่งที่จะทำให้มีโอกาสประสบความสำเร็จสูงและเป็นเศรษฐีได้ง่ายที่สุด แนวทางข้อนี้ค่อนข้างจะต้องสัมพันธ์กับข้อสอง นั่นคือ ถ้าคุณสามารถค้นพบตัวเองว่าเก่งทางไหน

ตั้งแต่อายุน้อย ความสำเร็จก็ไม่หนีไปไหน

6. อย่าตั้งเป้าหมาย

ลงมือทำให้สำเร็จทีละน้อย เดินหน้าไปทุกวัน เป้าหมายหรือแผนธุรกิจนั้น พอเขียนเสร็จก็ล้าสมัยแล้ว มหาเศรษฐีบางคนไม่มี Business Plan และไม่ตั้งแม้แต่เป้ายอดขายด้วยซ้ำ

ข้อนี้ฟังดูเหลือเชื่อผมคิดว่าเป้าหมายคงอยู่ในใจและเป็นเป้ากว้างๆ ที่จะช่วยบอกทิศทาง พวกเขาเน้นที่การปฏิบัติว่าต้องได้ผลมากกว่าการตั้งเป้าแต่ปฏิบัติไม่สำเร็จ

นัก ล ง ทุ น เองก็ควรคิดว่า Execution หรือการปฏิบัตินั้น สำคัญกว่าเป้าหมายมาก ถ้าเรา ล ง ทุ น แล้วพอร์ตเราโตขึ้นเรื่อยๆ นี่แหละความสำเร็จ

7. อย่ากลัวความล้มเหลว

ทางเดียวที่จะประสบความสำเร็จก็คือ กล้าที่จะล้มเหลว และล้มเหลวต่อหน้าสาธารณชนด้วย ทุกคนจะต้องเคยล้มเหลวมาบ้าง ไม่มีใครประสบความสำเร็จตลอดโดยที่

ไม่มีความล้มเหลวมาคั่นถ้าเรากลัวความล้มเหลว เราจะไม่กล้าทำอะไร ว่าที่จริง ไม่มีคำว่าล้มเหลวยกเว้นว่าคุณจะเลิก การ ล ง ทุ น นั้นก็เช่นเดียวกัน ไม่มีทางที่คุณจะ

ประสบความสำเร็จตลอด อย่าเลิกเมื่อขาดทุนหนัก สู้ต่อไป วันหนึ่งเราจะชนะ

8. ทำเลไม่สำคัญ

ทำเลที่ว่านี้คือสถานที่ที่คุณอยู่หรือที่ที่คุณทำงาน ไม่ว่าคุณจะอยู่เมืองไหน คุณสามารถประสบความสำเร็จได้ไม่ต้อง ย้ า ย ไปอยู่เมืองใหญ่หรือเมืองธุรกิจหลัก โดยเฉพาะ

อย่างยิ่งในยุคปัจจุบันที่เรามีเครือข่ายการ สื่ อ ส า ร ที่ทรงประสิทธิภาพ ว่าที่จริง บัฟเฟตต์นั้น อยู่ที่เมืองโอมาฮา รัฐเนบราสกา ซึ่งเป็นเมืองทางการเกษตรมาตั้งแต่เริ่มธุรกิจ

ล ง ทุ น เมื่อ 50 ปีก่อนที่การ สื่ อ ส า ร ยังไม่ดีนักแทนที่จะอยู่ที่นิวยอร์คหรือบอสตันที่เป็นศูนย์กลางทางการเงินและการ ล ง ทุ น ผมเองคิดว่านัก ล ง ทุ น ไม่จำเป็นต้อง

อยู่ที่กรุงเทพถึงจะประสบความสำเร็จในการ ล ง ทุ น ว่าที่จริง ยิ่งห่างอาจจะยิ่งดี

9. ยึดมั่นใน จ ร ร ย า บ ร ร ณ ทางธุรกิจ

นี่เป็นกฎเหล็กที่สำคัญที่สุด วอเร็น บัฟเฟตต์ พูดว่า “ชื่อเสียงนั้นใช้เวลา 20 ปีในการสร้าง แต่ใช้เวลาแค่ 5 นาทีในการ ทำ ล า ย ดังนั้นคุณต้องสำนึกไว้ตลอดเวลา”

10. เน้นที่การขาย

ไม่มีอะไรเกิดขึ้นจนกว่าบางสิ่งบางอย่างจะถูกขายออกไป นัก ล ง ทุ น ไม่ได้ขายอะไร แต่ต้องรู้ว่า บริษัทที่เรา ล ง ทุ น นั้นขายอะไร และการขายเป็นหัวใจของความสำเร็จ

ของบริษัทและเป็นความสำเร็จของราคาหุ้น ในความรู้สึกของผม ผมคิดว่า VI จำนวนมากชอบดูกำไรซึ่งเป็นบรรทัดสุดท้าย แต่ไม่ค่อยดูยอดขายที่เป็นบรรทัดแรกในงบการเงิน

11. ขอยืมไอเดียจากคนที่เก่งที่สุดและคนที่ แ ย่ ที่สุด

การ อ่ า น ประวัติและวิธีคิดของคนที่ยอดเยี่ยมที่สุด อย่างการ ล ง ทุ น ของบัฟเฟตต์นั้น ผมคิดว่าไม่มีอะไรมาทดแทนได้

12. ไม่มีวันเกษียณ

การเกษียณจะทำให้ชีวิตคุณล้มเหลว การเกษียณเป็น อั น ต ร า ย ต่อ สุ ข ภ า พ การเกษียณเป็น อั น ต ร า ย ต่อความสนุกในชีวิต อั น ต ร า ย ต่อความมั่งคั่งส่วนตัว

นัก ล ง ทุ น ไม่มีวันเกษียณ บัฟเฟตต์และ มังเจอร์ อายุเกือบ 80 ปีแล้วยังทำงานทุกวัน แม้แต่ปีเตอร์ ลินช์ หรือ จอห์น เนฟฟ์ ที่เกษียณจากการบริหารกองทุนรวมแต่

พวกเขาก็ยังบริหารกองทุนส่วนตัวอยู่

ที่มา : s o f t b a n k t h a i

Load More Related Articles
Load More By sabailey99
Load More In ข้อคิด

Check Also

คนมีทัศนคติดีแบบนี้ อยู่ที่ไหนก็สบาย เพื่อนร่วมต่างไว้ใจ

มีความคิดสร้างสรรค์ และทำทุกอย่างให้ดีที่สุด การเป็นลูกน้องที่ดีต้องไม่คิดแค่ ว่าเราเป็นแค…