
1.หารายได้เพิ่มให้ได้มากที่สุด
เราต้องหาเงิน เพื่อเพิ่มรายได้เข้ามาด้วย อะไรที่ทำเงินได้ก็ทำเลยอย่างขายของ
ตามตลาดนัด งานออนไลน์ก็เรียกว่าเป็นช่องทาง ที่ช่วยทำให้เรานั้นมีรายได้
เพิ่มขึ้นมาได้
2.จดบันทึก รวบรวมหนี้ที่มีออกมาทั้งหมด
ถึงเวลาที่ต้องมารวบรวมหนี้สิน ทั้งหมดที่เรานั้นมีอยู่ว่าเราเป็นหนี้ที่ไหนบ้าง
เป็นหนี้จำนวนเท่าไหร่ มีที่มาที่ไปอย่างไร แล้วลองนำหนี้ทั้งหมดมาบันทึก
ทำเป็นบัญชีให้ชัดเจน การรวมหนี้นั้นเราอาจจะได้เห็นตัวเลขที่มันมากแต่ก็
อย่าได้ตกใจหรือ เ ค รี ย ด ไปก่อนการให้ทำเช่นนี้นั้นก็เพื่อให้รู้ว่าหนี้
ที่เรามีนั้นมันมากน้อยขนาดไหน และเราจะจัดการตัวไหนก่อน ทั้งยังทำให้เรา
จะได้มานั่งทบทวน ตัวเองว่าเราได้ทำอะไรผิดพล าดในชีวิตเกี่ยวกับ
การจ่ายเงินในอดีต
3.ล้างใจ ก่อนล้างหนี้
หนี้มันล้างยาก ก็ต้องใช้เวลานาน พอสมควร และสิ่งที่ต้องทำก่อนก็คือ
ล้างใจเราให้ไม่ทุกข์เสียก่อน เพราะยิ่งทุ กข์ก็ยิ่งทำให้เรานั้นคิดอะไรไม่ออก
ยิ่งทำให้ชีวิต แ ย่ ไม่ต้องไปสนใจเรื่องหนี้มาก ให้โฟกัสเรื่องใจตัวเอง
และทำใจให้ได้ก่อน เมื่อใจพร้อมแล้วก็ค่อยมาหาวิธีจัดการกับมันต่อไป
4.จงใช้จ่ายเท่าที่จำเป็นเท่านั้น
เข้าใจแล้วใช่ไหม ว่าความฟุ่มเฟือยนั้น มันทำให้ชีวิตเราต้องวุ่นวาย
ที่ต้องหาเงินมาจ่ายหนี้สินต่าง ๆ ในภาวะที่เราเป็นหนี้นั้นควรใช้จ่ายให้น้อย
เท่าที่จำเป็นเท่านั้นจงเรียนรู้จากประสบการณ์ที่ผ่านมาแล้วสร้าง
ภูมิต้านทานจากประสบการณ์นั้นๆ นำความรู้มาต่อยอดสิ่งใหม่
5.เปลี่ยนจากการผ่อนจ่ายเป็นหยอดกระปุก
อยากได้อะไรก็ให้เก็บเงิน ซื้ อ เอาเปลี่ยนจากผ่อนมาเป็นการหยอดกระปุก
สะสมเงินแทนดีกว่าอยากได้อะไรก็เก็บใส่กระปุกออมสินไว้แล้วเขียนกำกับ
ไว้เลยว่าเงินนี้เก็บเพื่อนำไป ซื้ อ อะไร ได้เงินครบเมื่อไหร่ก็ค่อยนำเงินนั้น
ออกมา ซื้ อ ถ้าสินค้านั้นๆ
6.เรียงลำดับหนี้จาก ด อ ก เ บี้ ย ต่ำ ไปหา ด อ ก เ บี้ ย สูง
ทีนี้เราก็ค่อย ๆ มาจัดลำดับความสำคัญของหนี้ที่เราจะต้องจ่าย หรือลองไป
เจรจาพูดคุยกับเจ้าหนี้ดู แล้วมาเรียงลำดับตามหนี้ที่มี ด อ ก เ บี้ ย ต่ำสุด
ไปหาหนี้ที่มี ด อ ก เ บี้ ย สูงสุด แล้วหลังจากนั้นก็ให้ดูที่จำนวนเงินต้น
นำเงินต้นมาคูณกับ ด อ ก เ บี้ ย ที่ต้องจ่ายในแต่ละเดือน เราควรให้
ความสำคัญกับหนี้ที่ ด อ ก เ บี้ ย สูงสุดก่อน
7.หยุดสร้างหนี้ใหม่ แล้วค่อย ๆ สะสางหนี้เก่า
ระหว่างที่ กำลังแก้ปัญหาหนี้อยู่นั้น เราห้ามสร้างหนี้ใหม่ที่โดยเด็ดขาดสิ่ง
ที่ทำได้เพียงอย่างเดียวคือ “หาเงิน” มาจ่ายหนี้เก่าที่ทำไว้ให้หมดให้ลอง
นึกถึงภาพโอ่งหรือ ถังใส่น้ำดูก็ได้ ถ้ามันรั่วเพราะ “หนี้ใหม่” หรือรูใหม่ขึ้นมาอีก
เติมน้ำในถังเท่าไหร่ ก็ไม่มีวันเต็ม สิ่งที่ต้องทำก็คือต้องหยุด และปิดรูรั่ว
เพียงอย่างเดียวเท่านั้น
8.ไปเจรจา พูดคุยกับเจ้าหนี้
ลองเข้าไปคุยกับเขาก่อน ก่อนที่เขาจะส่งใบทวงหนี้มาหาเรา อย่าพาตัวเองไป
เข้ามุมอับหรือถ้าอยู่ในมุมอับแล้วก็หาทางเบี่ยงเลี่ยงมันออกมาให้ได้ไวที่สุด
ไม่อย่างนั้นแล้วเราจะยิ่ง แ ย่ ไปอีกเพราะไม่มีเจ้าหนี้ที่ไหนเขาไม่อยากได้
เงินเขาคืนหรอก ดังนั้นสิ่งที่ดีที่สุด คือการยอมรับและลองเข้าไปพูดคุยเจรจา
ขอผ่อนจ่ายเท่าที่เราพอทำได้ หากจำเป็นต้องขายของบางอย่างออกไป
เพื่อนำมาลดหนี้ก่อน
9.หนี้ไหนที่รีไฟแนนท์ได้ควรทำ
ยังมีหนี้บางประเภทที่ เราสามารถทำรีไฟแนนท์ได้ด้วย เพื่อเป็นการยืดระยะเวลา
การจ่ายออกไปก่อน แล้วนำเงินก้อนนั้นมาผ่อนจ่ายหนี้ก้อนอื่นหากจำเป็น
ที่จะต้องรวมให้หนี้มาเหลือเจ้าหนี้เป็นสิ่งที่ควรทำดีกว่าการมีเจ้าหนี้หลายคนนะ
หากเราสามารถทำให้เจ้าหนี้เหลือแค่ 1-2 รายมันจะง่ายในการคุย และ เจรจา
และช่วยกันหาวิธีผ่อนชำระหนี้นั้น
10.หากจำเป็นต้อง ล ง ทุ น ต่อ ให้เริ่มที่ลงแรง แลกกับ ล ง ทุ น ไปก่อน
การที่เราจะหาเงินมา ล ง ทุ น มันก็ต้องใช้เงินทุน จริงมั้ย?? แต่ถ้าทุนไม่มีก็
ต้องไปกู้ยืมเขามาอีก แล้วแบบนี้ เมื่อไหร่หนี้จะหมดไป ทางที่ดีนั้นลองใช้วิธี
ลงแรงแลกทุนมาก่อนเช่น การขายออนไลน์แบบ D r o p s h i p คือ
ไปดูสินค้าอันไหน ที่มีคนสนใจก็ติดต่อเจ้าของสินค้า แล้วนำรููปสินค้านั้น ๆ
มาโพสขายก่อน การทำเช่นนี้อาจได้กำไรไม่มากนัก แต่ในเมื่อเรานั้นไม่มีทุน
ก็ต้องใช้วิธีการแบบนี้ไปก่อน ขายได้แล้วค่อยให้ลูกค้า โ อ น เงินให้เรา
เราก็ โ อ น ให้กับเจ้าของสินค้าอีกที หักส่วนต่างๆ แล้วค่อยๆ เก็บกำไรที่
ได้มาเป็นทุน ในการ ล ง ทุ น ครั้งต่อไป
ขอขอบคุณ t h e-w a y o f l i f e