Home ข้อคิด 10 เทคนิค เพิ่มเงินเข้ากระเป๋า (ที่มนุษย์เงินเดือนควรรู้)

10 เทคนิค เพิ่มเงินเข้ากระเป๋า (ที่มนุษย์เงินเดือนควรรู้)

15 second read
0
0

ทำงานหนัก งานเยอะ จุกจิก วุ่นวาย แต่รายได้สวนทางถึงขนาดที่ บางคนอุทานว่า “นี่เงินเดือนหรือเงินทอน” สิ่งเหล่านี้สะท้อนความเป็นจริงของ ชีวิตมนุษย์เงินเดือนได้อย่างดี

สถิติของมนุษย์เงินเดือนส่วนใหญ่ อยู่ในภาวะชักหน้าไม่ถึงหลัง บางคนเดือนชนเดือนก็ดีไปแต่ส่วนใหญ่ไม่ถึงครึ่งเดือน ก็แทบจะไม่มีกินกันแล้วปัญหาเหล่านี้มองว่าเป็นกันมานาน

และคงจะหาทางให้ทุเลาเบาบางได้ ยาก ถ้าไม่ถูกหวยรวยทรัพย์กันขึ้นมา ก็ต้องวนเวียนอยู่ในภาวะเดิมๆ หลายคนก็พูดถึงวิธีเก็บเงิน ออมเงินเพิ่มเงินในกระเป๋าซึ่งก็มีวิธีการหลากหลาย

เราก็ลองรวบรวมมาให้ดู ส่วนจะเลือกใช้วิธีไหนก็แล้วแต่ความเหมาะสมของแต่ละคน

1. เพิ่มเงินด้วยสูตร 30-45-25

ไม่ใช่สูตรปุ๋ย นะครับ แต่เป็นสูตรจัดการเงินเดือนสำหรับคนบริหารเงินไม่เก่ง สำคัญคือเราต้องมีวินัยพอสมควรถ้าจะเลือกวิธีนี้ โดย 30 % คือเงินออม 45% คือรายจ่ายที่ต้องจ่ายทุกเดือน

และ 25% คือค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ยกตัวอย่างง่ายๆ ถ้ามีเงินเดือนเข้าบัญชี 15,000 บาทจะเป็นเงินออม 3,000 บาท รายจ่ายทุกเดือน 4,500 บาทค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน 2,500 บาท

แต่ต้องมีคนแย้งแน่ๆ ว่า รายจ่ายต่อเดือนแค่ 4,500 จะไปพอได้ไง แล้วเดือนนึงจะให้กินแค่ 2,500 เองนี่นะ เข้าใจว่าทฤษฏีกับปฏิบัติมักจะสวนทางกันคนส่วนใหญ่จึงทำแบบนี้ไม่ได้

ด้วยปัจจัยแวดล้อมหลายอย่าง แต่วิธีนี้ก็เป็นไกด์ไลน์แบบหนึ่งให้มนุษย์เงินเดือนได้ลองไปใช้ เริ่มจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมใช้เงินตัวเอง จะช่วยเพิ่มเงินในกระเป๋าได้

แต่อาจต้องใช้เวลาพอตัวเหมือนกัน

2. ออมเงินตามวันที่

การออมเงิน ตามวันที่ใช้ได้ทั้งแบบ 365 วันและแบบ 30 วัน วิธีการก็คือเก็บเงินตามวันที่ เช่น วันที่ 1 เก็บ 1 บาท วันที่ 2 เก็บ 2 บาท วันที่ 3 เก็บ 3 บาท ไปเรื่อยๆ ใน 1 เดือน

เราจะมีเงินจากวิธีนี้เพิ่มขึ้น 465 บาท ดูเป็นตัวเลขที่ไม่ได้เยอะแยะอะไรเลยแถมบางคนยังบอกอีกว่าวุ่นวายถ้างั้นก็เอาเงิน 400-500 มาเก็บไว้เลยไม่ดีกว่าเหรอแต่อย่าลืมว่า

วิธีนี้คือการฝึกวินัยการออม ถ้าคุณบอกว่าเก็บเงินมาเลยเดือนละ 400-500 อันนี้ก็ได้เหมือนกัน แต่คำว่าเงินออมคือเงินที่เราจะไม่เอามาใช้ จนกว่าจะจำเป็นจริงๆ

จะใช้วิธีไหนก็ได้ถ้าคุณออมได้ ก็ถือเป็นเรื่องดีทั้งนั้น

3. แบ่งเงินใช้ตามวัน

วิธีการที่ยกตัวอย่าง ให้เห็นภาพ เช่นตั้งเป้าจะใช้เงินไม่เกินวันละ 150 บาท ก็แยกเงินออกมาไว้เลย หรือแบ่งเงิน 150 บาท ออกเป็น 30 ถุง สำหรับใช้ 1 เดือน แล้วใช้แค่เท่าที่มี

(อาจมีเงินสำรองติดตัวไว้หน่อยเผื่อเหตุ ฉุ ก เฉิ น) ถ้าวันไหนเงินเหลือ ก็เอามาหยอดกระปุกเก็บออมเพิ่มได้อีก

4.ซื้อของฟุ่มเฟือยแค่ไหน ก็หยอดกระปุกแค่นั้น

บางทีห้ามไม่ได้ ก็ต้องหาวิธีผสมผสานกันไปซะเลย บางคนเลิกไม่ได้กับการช็อปปิ้งซื้อสินค้าฟุ่มเฟือยไม่จำเป็นต่างๆ ถ้าห้ามไม่ได้ก็เข้าร่วมไปเลย แต่ทุกครั้งที่ซื้อของฟุ่มเฟือยไป

ก็ต้องมาหยอดกระปุกไปตามราคาของด้วยเช่นซื้อเสื้อผ้ามา 500 ก็ต้องหักใจเอาเงินอีก 500 ไปหยอดกระปุกด้วยแต่เชื่อว่าในกระบวน การออมเงินเพิ่มรายได้ให้ตัวเองวิธีแบบนี้

ยากที่สุดคงไม่มีใครทำได้ แต่ก็ถือเป็นอีกวิธีที่ใครทำตาม รับรองว่าได้ผลมีเงินเป็นก้อนในอนาคตแน่

5. เปิดบัญชีเงินฝากประจำปลอดภาษีแบบ 24 เดือนหรือ 36 เดือน

วิธีนี้อาจไม่ เพิ่มรายได้ภายใน 30 วัน แต่วิธีนี้ให้ผลตอบแทนดีโดยอัตราผลตอบแทนประมาณ 2.25-3% ต่อปี เป็นการบังคับให้เราต้องนำเงินไปฝากธนาคารทุกเดือนเดือนละเท่าๆ กัน

ตั้งแต่ 1,000-25,000 บาท ยิ่งฝากเยอะ ยิ่งฝากนาน ก็ยิ่งได้ ด อ ก เ บี้ ย เพิ่มขึ้น

6.ซื้อกองทุนรวมที่ไม่ เ สี่ ย ง

คนที่ไม่อยากฝากเงินไว้ในธนาคารเพราะ ด อ ก เ บี้ ย ต่ำ อาจเลือกวิธีออมด้วยการซื้อกองทุนรวม ซึ่งได้ผลตอบแทนประมาณ 1% กว่าๆ หรือจะเลือกกองทุนตรา ส า ร ห นี้

ที่ ค ว า ม เ สี่ ย ง ต่ำก็น่าสนใจให้ผลตอบแทนราวๆ 1-3% เงินต้นก็ไม่หาย แต่ได้ผลตอบแทนสูงกว่าเงินฝากออมทรัพย์ที่ให้
ด อ ก เ บี้ ย ไม่เกิน 0.5% ด้วย

7. ล ง ทุ น ในแฟรนไชส์ราคาเบาๆ

การ ล ง ทุ น มีความ เ สี่ ย ง เรื่องนี้ทุกคนเข้าใจ แต่ปัจจุบันการ ล ง ทุ น กับแฟรนไชส์เป็นวิธีที่น่าสนใจมากที่สุดมีหลายแฟรนไชส์ที่ให้เลือก ล ง ทุ น ในแพคเกจสบายๆ

ราคาไม่แรงเกินไปเริ่มต้นตั้งแต่ 5,000 ไปถึงหลัก 10,000 ต้นๆ สำคัญคือแฟรนไชส์เหล่านี้มีอุปกรณ์พร้อมวัตถุดิบให้เราพร้อมเปิดร้านได้ทันที แต่คน ล ง ทุ น ก็ต้องมีทำเลการ ล ง ทุ น ที่ดี

และต้องขยันตั้งใจทำจริงๆ อาจทำให้มีเวลาพักผ่อนน้อยลง แต่ถ้าเห็นเงินในกระเป๋าเพิ่มขึ้น ก็คุ้มค่าที่จะเหนื่อย

8. ออมเงินเท่าค่ากาแฟ

ไม่ปฏิเสธว่า รายจ่ายของมนุษย์เงิน เดือนส่วนหนึ่งหมดไปกับค่ากาแฟ ยิ่งแบรนด์ใหญ่ ราคายิ่งแพง แต่บางคนก็เลิกดื่มไม่ได้ และต้องซื้อทุกวัน แถมบางวันกินวันละ 2-3 แก้วอีกด้วย

การออมเงินเท่าค่ากาแฟลองคิดดูเล่นๆถ้าเราซื้อกาแฟแก้วละ 60 บาททุกวัน ใน 1 สัปดาห์ (5วันที่ทำงาน) มีรายจ่ายส่วนนี้ 300 บาท ใน 1 เดือนทำงานประมาณ 20 วัน (จันทร์-ศุกร์)

รายจ่ายค่ากาแฟประมาณ 1,200 บาท ถ้าเปลี่ยนพฤติกรร มการดื่มกาแฟไม่ได้ก็ลองเก็บเงินจากวิธีนี้ดูแล้วจะรู้ว่าได้ผลจริงๆ

9. เก็บแต่เงินเหรียญเท่านั้น

อย่าดูถูก พ ลั ง ของเงินเหรียญเด็ดขาด เหรียญ 1 บาท 2 บาท 5 บาท 10 บาท ลองเก็บให้ได้รวมๆได้จำนวนมากเมื่อไหร่ได้นับกันจนเมื่อยนิ้วแน่ ถามว่าจะเก็บยังไงวิธีไม่ยาก

แต่เอาเงินที่ได้จากการใช้ในชีวิตประจำวันไม่ว่าจะเงินทอนจากค่ารถ ค่าข้าวซื้อของร้านสะดวกซื้อส่วนใหญ่มีทั้งแบงค์และเหรียญรวมกันมา แยกไปเลยเอาแบงค์ไปใช้

แต่เหรียญทุกบาททุกสตางค์เก็บเอาไว้ห้ามใช้ วิธีนี้ไม่เห็นผลทันทีแต่จะเห็นผลใน ร ะ ย ะ ย า ว ที่สำคัญไม่ทำให้เรารู้สึกอึดอัดเรื่องการใช้เงินในแต่ละวันด้วย

10. ล ง ทุ น ขายของออนไลน์

วิธีการออมเงินต่างๆ อาจจะไม่สร้างรายได้ในทันที ใครที่อยากมีรายได้เพิ่มขึ้นชัดเจน ลองเลือกขายของออนไลน์ดูน่าจะเข้ากับยุคสมัยนี้มากที่สุด แต่ก็ต้องทำความเข้าใจด้วย

ว่าสมัยนี้พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์มีเกลื่อนเมือง สินค้าในอินเทอร์เนตมีให้เลือกมากมาย การที่เราจะขายสินค้าอะไรก็ต้องรู้จักวิธีทำตลาดให้ลูกค้ารู้จักตัวตนของเรารู้จักร้านค้าของเรา

ในโลกออนไลน์ซึ่งก็มีวิธีการ โ ป ร โ ม ท และ ก ล ยุ ท ธ์ การตลาดมากมาย

ถ้าเบื่อการออมก็ลองเลือก ล ง ทุ น แบบนี้ได้วิธีเพิ่มเงินที่ดีที่สุด ในยุคนี้คือบริหารเงินให้เป็น อันไหนที่ไม่ควรจ่ายก็อย่าจ่ายและ
พ ย า ย า ม หารายได้เพิ่มทั้งจากการ ล ง ทุ น

ในรูปแบบต่างๆ แม้ภาวะเศรษฐกิจจะไม่ได้ดีนัก การช่วยเหลือตัวเองเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในยุคที่การเมืองเป็นเรื่องของผลประโยชน์อย่ารอว่าเศรษฐกิจจะดี ทุกอย่างเริ่มต้นที่ตัวเรา

ไม่ต้องรอใครมาช่วยทั้งนั้น

ขอบคุณที่มา : t h a i s m e s c e n t e r

Load More Related Articles
Load More By sabailey99
Load More In ข้อคิด

Check Also

7 ลักษณะเพื่อนแย่ๆ เพื่อนนิสัยแบบนี้..เลิกคบเถอะ

โดยปกติแล้วชีวิตของคนเรา จะต้องเจอผู้คนมากมาย นิสัยก็แตกต่างกันออกไป บางคนก็เข้ามาดี บางคน…