Home ข้อคิด 12 เทคนิค ใช้เงินแบบประหยัดที่สุด ทำแบบนี้สิ้นเดือนเงินก็เหลือ

12 เทคนิค ใช้เงินแบบประหยัดที่สุด ทำแบบนี้สิ้นเดือนเงินก็เหลือ

9 second read
0
0

เงิน สิ่งสำคัญล้ำค่าที่กว่าจะหามาได้แต่ละบาทก็เหนื่อยกันแทบขาดใจ แต่กลับร่อยหรอไปได้อย่างรวดเร็วราวกับน้ำซึมลงในทราย บางคนได้รับเงินเดือนมาไม่กี่วันก็หมด

แทบจะต้องต้ม ม า ม่ า กินกันไปทั้งเดือนก็ยังมีนั่นก็เพราะการจัดสรรเงินที่ไม่ถูกต้อง และการใช้เงินอย่างขาดการวางแผนที่ดี ปัญหาเหล่านี้ต้องยอมรับว่าเกิดขึ้นเพราะ

ตัวเราเองทั้งนั้น แต่ก็ใช่ว่าจะไม่สามารถแก้ไขได้ การรัดเข็มขัด และการกินอยู่อย่างประหยัดเป็นวิธีที่จะช่วยให้ตัวเลขที่ติดลบต่อเดือนหายไปได้ด้วยวินัยการเงินที่เคร่งครัด

ถ้าในวันนี้อยากจะเปลี่ยนแปลงวิธีการใช้เงินของตัวเองละก็ ลองมาดู 12 วิธีใช้เงินอย่างประหยัด กินอยู่อย่างไรไม่ให้เงินหมดก่อนสิ้นเดือน วิธีเหล่านี้ช่วยคุณได้

1. ปลูกผักสวนครัวไว้ข้างบ้านก็ดีนะ

ข้อดีของการอยู่ในบ้านที่มีบริเวณก็คือสามารถปลูกผักสวนครัวเอาไว้รับประทานเองได้ ไม่จำเป็นต้องปลูกทุกอย่างที่คุณกิน เลือกปลูกในสิ่งที่คิดว่าคุณจะต้องได้ใช้อยู่บ่อย ๆ

เช่น ใบกะเพรา พริก ใบมะกรูด มะนาว โหระพาหรือผักที่ปลูกง่าย ไม่ต้องดูแลเอาใจใส่มาก แต่ถ้าใครอยู่คอนโดหรือหอพักก็ไม่ต้องเสียใจไป เดี๋ยวนี้มีวิธีสอนการปลูกผัก

แบบคอนโดให้ได้ลองไปทำตามอีกเพียบลองนำไปใช้ดู รับรองว่าลดค่าใช้จ่ายเรื่อง อ า ห า ร การกินลงได้ แถมถ้าเหลือจากการเก็บไปรับประทานจะนำไปขายก็ได้

รายได้เสริมอีกด้วยนะ

2. แบ่งเงินออมทันทีหลังได้รับเงินเดือน

แม้จะไม่ใช่การใช้เงินอย่างประหยัดโดยตรงเสียทีเดียว แต่ก็เป็นวิธีที่ช่วยให้เราออมเงินได้ ไม่ต้องแบ่งเก็บคราวละมาก ๆ ออมเงินในปริมาณที่เราสามารถทำได้โดยที่

ไม่กระทบค่าใช้จ่ายของตนเองมากนักโดยอย่างน้อยก็ควรจะแบ่งไว้ออมประมาณ 5-10% ของเงินที่ได้รับในแต่ละเดือน ซึ่งเงินก้อนนี้หากคุณไม่ตบะแตกหยิบออกมาใช้เสียก่อน

ก็จะกลายเป็นเงินเก็บที่คุณภาคภูมิใจในอนาคต อีกทั้งถ้าหากเกิดเรื่อง ฉุ ก เ ฉิ น อะไรจะได้ไม่ต้องไปหยิบยืมใครให้ลำบากใจยังไงล่ะ

3. เช็กราคาก่อน ซื้ อ

สิ่งของที่เราคิดว่า ซื้ อ มาในราคา ย่ อ ม เ ย า บางครั้งอาจจะแพงกว่าบางที่โดยที่ไม่รู้ตัว ฉะนั้นถ้าไม่อยากจะเสียส่วนต่างของราคาไปง่าย ๆ ควรเช็กราคาให้ดีก่อนที่จะ ซื้ อ

โดยเลือกที่ดูแล้วการ ซื้ อ ครั้งนั้นจะคุ้มค่าที่สุด แม้ว่าอาจจะไม่ถูกที่สุด แต่ถ้าหากเมื่อเทียบกับค่าเดินทาง หรือค่าขนส่งแล้วประหยัดได้มากกว่าก็เลือก ซื้ อ อันนั้นเลย

ที่สำคัญ อย่าลืมดูที่คุณภาพด้วยนะ

4. ทำ อ า ห า ร รับประทานเองสิ

สำหรับคนที่พอจะมีฝีมือปลายจวักอยู่บ้าง การทำ อ า ห า ร รับประทานเองก็เป็นความคิดที่ดี นอกจากเราจะได้รสชาติ อ า ห า ร ที่ถูกปากเราแล้ว ก็ยังสามารถเลือกวัตถุดิบดี ๆ

มาปรุง อ า ห า รแถมยังไงก็ถูกกว่าการไป ซื้ อ อ า ห า ร สำเร็จรูปรับประทานข้างนอกแน่ ๆ แต่ถ้าใครทำ อ า ห า ร ไม่เป็น จะลองฝึกทำก็ถือเป็นการเพิ่มพูนทักษะไปในตัว

นอกเสียจากว่าคุณเป็นคนที่ไม่ถนัดทำ อ า ห า ร จริง ๆ ทำแล้วต้องเททิ้งตลอด แบบนี้อย่าทำเองเลยดีกว่า เดี๋ยวจะพาลทำให้เสียของเสียเงินยิ่งกว่าเดิม

5. ลดการรับประทาน อ า ห า ร นอกบ้าน

การรับประทาน อ า ห า ร นอกบ้าน ถึงจะสะดวกแต่ก็เป็นค่าใช้จ่ายที่สูงไม่เบา เพราะนอกจากราคา อ า ห า ร แล้ว ร้าน อ า ห า ร ก็ต้องบวกค่าภาษี บวกค่าบริการ

บวกค่าแก๊ส ค่าแอร์ในร้านโอ๊ย…อีก ส า ร พั ด อย่างที่นึกได้ แล้วเราจะยอมเสียค่าใช้จ่ายเหล่านั้นไปทำไมบ่อย ๆ ในเมื่อเราสามารถเก็บออมส่วนนั้นไว้ได้ โดยอาจจะลด

การไปกิน อ า ห า ร นอกบ้านลงจากสัปดาห์ละครั้ง ก็เหลือเดือนละครั้งดูก่อน หรือลองห่อข้าวกล่องไปรับประทานตอนกลางวัน หรือรีบกลับบ้านมารับประทาน อ า ห า ร เย็น

ที่บ้านทุกวันดูสิ รับรองว่าเหลือเงินเก็บมากขึ้นแบบเห็น ๆ

6. จำกัดการใช้เงินของตัวเองในแต่ละวัน

อาจจะเป็นวิธีที่เคร่งครัดไปนิด แต่ก็เป็นการฝึกวินัยการใช้เงินที่ดี กำหนดไปเลยว่าเราต้องจะใช้วันละเท่าไร โดยในเงินจำนวนนั้นอาจจะรวมค่าเดินทาง ค่า อ า ห า ร และ

อาจจะพอให้มีเหลือกินขนมนมเนยอีกนิด แบ่งเงินที่ต้องใช้ในแต่ละวันใส่ถุงหรือใส่ซองเอาไว้ หยิบไปวันละซอง และไม่ว่าอย่างไรก็ห้ามใช้เกินกว่านี้ ถ้าทำติดต่อกันได้สัก 1 เดือน

นิสัยในการใช้เงินของคุณเปลี่ยนแน่นอน

7. เลือก ซื้ อ ของที่คุณภาพไม่ใช่ราคา

บางคนอาจจะคิดว่าการเลือก ซื้ อ ของที่ราคาถูกกว่าและคุณภาพน้อยลงหน่อยน่าจะช่วยเซฟเงินได้บ้าง แต่ถ้ามาเทียบกันจริง ๆ แล้ว การ ซื้ อ ของที่มีคุณภาพดีแต่ราคาเพิ่มขึ้น

อีกนิดหน่อยย่อมคุ้มค่ากว่านะไม่ว่าจะเป็น อ า ห า ร หรือของใช้ต่าง ๆ เมื่อมีคุณภาพที่ดีกว่าย่อมมีอายุการใช้งานที่นานกว่าอยู่แล้ว ฉะนั้นแทนที่จะมองเรื่องราคา

หันมามองที่คุณภาพจะดีกว่า จะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจทีหลังหากของใช้ที่ ซื้ อ มาเกิดพังแล้วค่าซ่อมแซมแพงกว่าตอนที่ ซื้ อ มา

8. ต่อราคาบ้างก็ได้

รู้หรือไม่ว่าแม่ค้าบางร้านก็ตั้งราคาเผื่อต่อให้กับลูกค้าเอาไว้แล้ว ของบางชิ้นที่เราเห็นว่าแพงที่จริงแล้วอาจจะลดราคาลงได้อีก ยิ่งถ้าหากเป็นแม่ค้าบางคนที่กล้าได้กล้าเสีย

ยอมลดราคาให้คุณแบบแทบไม่เอากำไรด้วยละก็ ถ้าไม่ลองต่อราคาสักหน่อยแล้วจะเสียดายนะจะบอกให้

9. งดค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือย

ของที่ ซื้ อ มาแล้วไม่ได้ใช้เป็นความฟุ่มเฟือยที่ควรจะตัดทิ้งอย่างยิ่ง โดยเฉพาะคุณผู้หญิงที่ชอบช้อปปิ้งเป็นชีวิตจิตใจ หันกลับมาดูสิว่า สิ่งที่คุณ ซื้ อ มาจำเป็นหรือเปล่า

คุ้มค่าหรือไม่หรือแค่เพียงสนองความต้องการของตัวเองเท่านั้น แม้นั่นจะเป็นความสุขที่คุณได้รับจากการ ซื้ อ ของที่ถูกใจ แต่ก็ต้องยอมรับว่ายังไงการมีเงินเหลือใช้มากขึ้น

ก็ดีกว่าใช่ไหมล่ะ

10. อย่าอายกับการ ซื้ อ ของลดราคา

ป้ายลดราคาคือสวรรค์ของใครหลาย ๆ คน แต่สำหรับบางคนก็ยังแอบรู้สึกอายที่ต้องไป ซื้ อ ของลดราคา ทั้ง ๆ ที่จริงแล้วเป็นวิธีการประหยัดเงินที่ดีอย่างหนึ่ง แต่ก็ไม่ใช่ว่า

เห็นป้ายลดราคาแล้วจะพุ่งเข้าใส่อย่างเดียวนะ ตั้งสติและ ซื้ อ เฉพาะของที่จำเป็นเท่านั้น ถ้าทำได้ก็ลดค่าใช้จ่ายได้เยอะเลยเชียวล่ะ

11. ทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย

วิธีการประหยัดเงินสุดคลาสสิกที่ได้ผลเสมอ การทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย เป็นวิธีที่จะทำให้เรารู้ว่าในแต่ละเดือนเราได้รับเงินมาเท่าไร และจ่ายเงินไปเท่าไร มีค่าใช้จ่ายใด

ที่เกินความจำเป็นบ้าง นอกจากจะช่วยเพลา ๆการใช้เงินของเราลงได้แล้ว ยังสามารถช่วยให้เราประมาณการใช้เงินของเราในเดือนถัดไปได้อีกด้วย ได้ประโยชน์

หลายต่ออย่างนี้ไม่ต้องแปลกใจเลยว่าทำไมวิธีประหยัดเงินนี้จึงได้รับความนิยมที่สุด

12. เศษเหรียญมีค่าต้องใช้ให้คุ้ม

ยอมรับมาซะดี ๆ เถอะว่าต้องมีหลาย ๆ คนไม่ชอบการพกเหรียญให้หนักกระเป๋า แต่อย่าลืมนะว่าเหรียญเหล่านั้นก็คือเงินเหมือนกัน ดังนั้นอย่าปล่อยเหรียญทิ้งไว้โดยไม่ได้ใช้ค่ะ

เหรียญทุกเหรียญมีค่า ไม่ว่าจะเหรียญบาท เหรียญสลึง ถ้าไม่อยากหนักกระเป๋าก็แค่นำไปแลกที่ธนาคาร แค่นี้ก็ได้ธนบัตรออกมาใช้สบายใจแล้ว

ที่มา : m o n e y . k a p o o k

Load More Related Articles
Load More By sabailey99
Load More In ข้อคิด

Check Also

10 แนวคิด ที่นำพาชีวิต..ให้พบเจอแต่สิ่งดีๆ (คุ้มค่าแก่การอ่าน)

1 : Don’t give up. Give it a try and set your goal. “..อย่ายอมแพ้ ไม่ว่าจะทำอะไร ตั้งเป้าห…