
มีหลากหลายสิ่งที่เราควรเรียนรู้ในการทำงาน ไม่ว่าจะกับเพื่อนร่วมงานหรือกับหัวหน้างาน หรือแม้กระทั่งบอสใหญ่ ม า ร ย า ท และวินัยในการทำงานสำคัญมาก
เพราะบอกได้ถึงความเป็นมืออาชีพและนั่นคืออีกจุดที่จะนำไปพิจารณาในการขึ้นเงินเดือน หลายสิ่งที่เราไม่ควรพูดกับเจ้านาย/หัวหน้างาน อย่าได้เผลอเชียวล่ะ
บางทีคำพูดที่เราบอกตัวเองเสมอว่า “ก็เป็นคนพูดตรงๆ มีอะไรก็พูด” ไม่ใช่เรื่องที่ดีเสมอไป
1. งานนี้ไม่ใช่งานในความรับผิดชอบ
แม้ไม่ใช่งานในความรับผิดชอบของเราก็ตาม หากหัวหน้าสั่งงานเราก็ควรทำ เพราะสิ่งที่หัวหน้ามองอยู่นั้นอาจจะไม่ใช่เพียงแค่ให้เราทำงานนั้นๆให้เสร็จ แต่นั่นบอกไปได้
ถึงการที่เราก้าวออกจากบทบาทงานของตัวเองได้และสามารถทำในสิ่งที่เราคาดไม่ถึงได้ รวมถึงการทำให้โปรเจ็คนั้นลุล่วงไปด้วยดี ซึ่งมีเราเป็นผู้ช่วยคนสำคัญ
หากเราปฎิเสธเสียแล้ว นั่นหมายถึงเราไม่มีความยืดหยุ่นในการทำงานเอาเสียเลยแต่หากมีปัญหาไม่สามารถทำได้เนื่องจากงานล้นมืออยู่แล้ว ควรต้องคุยกับหัวหน้า
ด้วยเหตุผลดีๆไม่ใช่ใส่อารมณ์เมื่อได้รับมอบหมายงาน
2. ทำดีที่สุดแล้ว
ความผิดพลาดเกิดขึ้นได้เสมอ หากเรารู้สึกได้ถึงความผิดพลาดนั้นจริงๆไม่ว่าจะเกิดจากตัวเราเองหรือปัจจัยรอบข้าง สิ่งที่ต้องทำคือนำความผิดพลาดนั้นไปปรับปรุง
แต่หากเกิดความเสียหายขึ้นมาแล้วไม่ควรตอบไปว่า “ทำดีที่สุดแล้ว” เพราะนั่นอาจหมายถึงคุณยังทำได้ไม่ดีพอที่จะทำให้งานลุล่วงและเป็นการปัดความรับผิดชอบทั้งหมด
จากคำพูดนั้นๆสิ่งควรพูดคือ…ขอโอกาส และจะ พ ย า ย า ม นำไปปรับปรุง ครั้งหน้าจะทำให้ดีกว่านี้
3. ตอนทำงานที่เก่า ทำงานกันแบบนี้
ระลึกไว้เสมอว่า งานแต่ละแห่งไม่เหมือนกัน ตำแหน่งเดียวกัน แต่ลักษณะงานก็แตกต่างโดยเฉพาะวัฒนธรรมในองค์กรนั้นๆ ควรเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ นำสิ่งที่เรียนรู้มาแล้ว
นำมาปรับใช้กับงานที่ใหม่ให้ได้ อย่ายึดติดกับสิ่งเดิมๆที่ทำให้เราไม่ก้าวไปไหนสักที
4. ไม่ใช่ความผิดของเรา เป็นความผิดของ….
การโทษคนอื่นไม่ได้ทำให้เราดูดีหรือไม่ผิด หากทำงานเป็นทีม อย่าโทษผู้อื่น เพราะนั่นหมายถึงคุณกำลังสร้าง ศั ต รู ขึ้นในที่ทำงาน แม้จะไม่ใช่ความผิดของคุณจริง ๆ
คุณควรให้ผู้ที่ทำผิดพลาดมีโอกาสได้พูดถึงความผิดนั้นด้วยตนเอง อย่าร้อนตัวจนชี้นิ้วไปยังใครคนใดคนหนึ่ง
5. ไม่สามารถทำงานร่วมกับคนๆนี้ได้
ไม่ว่าคุณจะเคมีไม่ตรงกันกับเพื่อนร่วมงานมากแค่ไหน หรือมีปัญหาส่วนตัวขัดแย้งกันอย่างมากมาย แต่การทำงานนั้นเมื่อได้รับมอบหมาย ควร พ ย า ย า ม ที่จะทำงาน
ร่วมกับใครก็ตามที่หัวหน้าเห็นว่าจะทำให้งานสำเร็จหรือหากหัวหน้ารู้ปัญหานี้อยู่แล้วก็อาจจะเป็นไปได้ที่ต้องการให้เราสามารถปรับตัวเข้ากับบุคคลนั้นได้ เพราะ
การทำงานนั้นไม่ควรมีเรื่องส่วนตัวเข้ามาเกี่ยวข้อง
6. ไม่รู้จะแก้ปัญหานี้อย่างไรดี
เมื่อรู้ว่าเกิดปัญหาขึ้นในการทำงานไม่ว่าโปรเจ็คใดๆ เมื่อต้องการขอความช่วยเหลือจากหัวหน้า ควรคิดการแก้ปัญหาไปอย่างคร่าวๆและขอความเห็นมากกว่าการที่
จะบอกว่าปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นแก้ไขไม่ได้เพราะเราไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไร นั่นแสดงถึงวุฒิภาวะที่ไม่เหมาะสมกับตำแหน่งงาน งานทุกงานย่อมมีปัญหาเกิดขึ้นได้เสมอ
อยู่ที่การจัดการและแก้ปัญหานั้นๆ
7. ตอนนี้ยุ่งมากเลย งานนี้ไม่เร่งใช่มั้ย
เมื่อรู้ว่าตอนนี้กำลังยุ่ง งานล้นมือจริงๆ เราสามารถถามหัวหน้าได้ถึงความสำคัญของงานใหม่ ฉะนั้นควรปรับมาทำงานชิ้นใหม่ก่อนและหยุดงานที่กำลังทำอยู่ไว้ ชั่ ว ค ร า ว
วิธีนี้จะทำให้หัวหน้ารู้ว่าจริงๆแล้วงานล้นมือ แต่หากมีงานเร่งด่วนเราสามารถปรับเปลี่ยนได้ ไม่ยึดติด และหากงานที่กำลังทำค้างเอาไว้นั้นล่าช้าก็เพราะเรามีเหตุผลที่ดีพอ
8. เราทำงานได้มากกว่า…ควรได้เงินเดือนมากกว่าหรือขึ้นเงินเดือนมากกว่า
เรื่องเงินเดือนหรือขึ้นเงินเดือนเป็นพิจารณาของบริษัท เราสามารถขอขึ้นเงินเดือนได้ แต่ไม่ควรบอกว่าเราทำงานได้มากกว่าคนอื่นๆ เพราะการทำงานของแต่ละคนไม่
เหมือนกันอาจจะรู้สึกเหมือนว่าเราทำงานได้เยอะ ทำงานได้ดี แต่นั่นคือความรู้สึกของเราเอง และเราจะทำให้เพื่อนร่วมงานมองในแง่ลบ ซึ่งไม่เป็นผลดีกับเราเลย
ทางที่ดีหากต้องการขอขึ้นเงินเดือนหรือใดๆ ควรพูดเฉพาะในส่วนของตัวเอง และไม่ได้หมายความว่าการขอนั้นจะได้เสมอไป
9. เวลาไม่พอที่จะทำงานนี้ให้เสร็จได้ทันเวลา
ทุกๆคนก็คงมีงานล้นมือเหมือนกันทั้งนั้น แต่หากเรามีงานเยอะและทำไม่ทันจริงๆควรพูดคุยหรือขอความช่วยเหลือก่อนจะถึงกำหนดการส่งงาน การขอความช่วยเหลือ
ไม่ได้หมายถึงประสิทธิภาพในการทำงานของเราไม่ดีพอแต่หมายถึงเรารู้จักการแก้ปัญหาและมีเหตุผลเพียงพอในการขอความช่วยเหลือนั้น หัวหน้างานอาจจะให้คำแนะนำ
ถึงระบบการทำงานเพื่อให้เสร็จทันเวลา หรืออาจจะได้รับคำแนะนำที่ทำให้เราจัดการปัญหาได้ดีพอ
10. งั้นขอลาออกละกัน
ไม่ว่าเจอปัญหาหรือถูกตำหนิมาอย่างไร การพูดถึงเรื่องการลาออกเหมือนเป็นการ ข่ ม ขู่ ซึ่งมักไม่ได้ผล และไม่มีใครคิดว่าการที่คุณลาออกนั้นจะทำให้บริษัทล่มสลาย
หากคุณแสดงสภาวะจิตใจที่ต้องการประชดหรือ ข่ ม ขู่ ออกมา บริษัทเองก็คงไม่อยาก เ สี่ ย ง กับการที่คุณพูดอะไรไม่คิดแบบนี้ และนั่นคือการหนีปัญหาที่ชัดเจนที่สุด
11. คงจะดีถ้าไม่ต้องตอบเมล์ตอนดึก
เรื่องจริงของยุคนี้คือการที่เราทำงานผ่านมือถือ ไม่ว่าจะเป็นการสั่งงานผ่านเมล์หรือแชทต่างๆ เป็นไปได้ที่เจ้านายคิดงานได้ตอนดึกและต้องการสั่งงานเอาไว้ก่อนที่จะลืม
หรือมีการแก้ไขงานในตอนดึกหากเป็นบ่อยๆจนทำให้การพักผ่อนของเราสะดุด การจะเข้าไปพูดคุยกับเจ้านายนั้นเป็นสิ่งที่ควรทำ แต่น้ำเสียงในการพูดคุยนั้นควรเป็นไป
อย่างราบเรียบ ไม่ใช่อารมณ์หงุดหงิดจากการนอนไม่เพียงพอถามในสิ่งที่ควรถามเช่น “ถ้าหากไม่ได้ดูเมล์ตอนดึกๆและไม่สามารถตอบกลับได้ควรทำอย่างไร” หรือ
ถ้าหากจะขออนุญาตตอบเมล์หรือแชทต่างๆในช่วงเวลา…ได้หรือไม่หากพูดคุยด้วยเหตุผลแล้วไม่ได้ผล นั่นก็อาจจะเป็นวัฒนธรรมองค์กรที่ไม่เข้ากับตัวเรา ลักษณะ
งานบางงานนั้นอาจจะต้องการการตอบรับอย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งเป็นสิ่งที่เราอาจจะต้องสอบถามตั้งแต่ตอนสัมภาษณ์งานแล้วก็เป็นได้
12. คุณไม่ได้บอกให้เราทำงานนั้น
เป็นไปได้ที่เจ้านายจะไม่ได้สั่งงานนั้นจริงๆ แต่สิ่งที่เราควรเลี่ยงคือโทษเจ้านายโดยตรง วิธีที่ดีที่สุดคือหาทางพูดคุยและหากยังไม่ถึงกำหนดงาน อาจจะต้องคุยกันว่า
ทำตอนนี้พอจะเป็นไปได้หรือไม่แต่อย่าลืมที่จะพูดคุยเรื่องนี้เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเดิมขึ้นในครั้งหน้า และหากเจ้านายไม่ได้สั่งงานเราจริงๆแล้วอย่ารับเอาความผิดชอบ
มาใส่ตน อาจจะเพียงขอโทษไปแต่อย่าโทษตัวเอง
13. เจ้านายแน่ใจแล้วหรือที่จะทำอย่างนั้น
อย่าได้…ล้ำเส้นเข้าไปสอนงานเจ้านายเด็ดขาด โดยเฉพาะพูดแล้วมีเสียงหัวเราะเบาๆด้วยแล้วยิ่งไม่ควรอย่างยิ่ง การตัดสินใจต่างๆที่เจ้านายได้ทำไปแล้วนั้นเรามีหน้า
ซัพพอร์ทงานและทำเพื่องานลุล่วงไปได้โดยดี หากงานมีปัญหาเกิดขึ้นหรือไม่เป็นอย่างที่คิดก็เพียงแค่พูดคุยเพื่อขอคำแนะนำ
14. ฟังแล้วยากจัง/ ไม่น่าจะเป็นไปได้
เมื่อยังไม่ได้เริ่มลงมือทำ อย่าคิดว่าสิ่งใดยากเกินกว่าจะจัดการปัญหาได้ ความยากของงาน คือบทพิสูจน์ของความก้าวหน้าในหน้าที่การงานของเรา ยิ่งถ้าเราทำให้งาน
ที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้ เชื่อว่าเจ้านายจะให้ความไว้วางใจในตัวเรามากขึ้น แต่หากเราพูดประโยคนี้ตั้งแต่ก่อนเริ่มโปรเจค คุณอาจจะไม่ได้ทำโปรเจคนี้เลยก็เป็นได้
15. วันนี้เหนื่อยและ ห ม ด พ ลั ง
ไม่ว่าเมื่อคืนคุณจะไป เ ม า หนักที่ไหนมา การพูดคือสิ่งที่บอกได้ว่าคุณไม่มืออาชีพ ไม่ว่าจะเหนื่อย ง่วงขนาดไหน เมื่อถึงเวลางานก็คือหน้าที่ของคุณที่จะทำให้ตัวเอง
มี พ ลั ง ในการทำงานให้เต็มที่ หากทำไม่ได้คุณมีปัญหากับระบบการจัดการในตัวเองซึ่งทำให้เป็นปัญหากับการทำงานแน่นอนหลายๆคำพูดนั้นเมื่อใส่อารมณ์ในการพูด
เข้าไปด้วย เชื่อว่าจะ เ ล ว ร้ า ย กว่านี้มากการปีนเกลียวหรือล้ำเส้นเจ้านายไม่ดีแน่ ไม่ว่าอย่างไรก็ตามบางอย่างที่สามารถเก็บคำพูดเอาไว้ได้ก็ควรทำ การทำงาน
นอกจากทำตามหน้าทีแล้ว ยังต้องสามารถต่อยอดงานได้และต้องรู้จัดอดทนอดกลั้นต่อสิ่งที่ไม่ควรพูดอีกด้วย
ขอบคุณที่มา : p o o y i n g n a k a