
1. อย่าเพียงแค่ประหยัดเงิน
การออม เป็นสิ่งทีดีโดย ควรตั้งเป้าหมายในการออมระยะสั้น เช่น ออมให้ได้ 300 บาท
หรือมากกว่านั้นต่อสัปดาห์ จะทำให้เราไม่รู้สึกหนักเกินไปและมีกำลังใจในการเก็บเงิน
และควรวางแผนการเกษียณให้เร็วที่สุด อย่าเพียงแค่ทำงานไปทุกๆ เดือน
2. อย่าซื้อเสื้อผ้าราคาถูก
ก็คือการเลือก เสื้อผ้าที่ใช้วัสดุคุณภาพดี เพราะเมื่อคุณซื้อเสื้อผ้าราคาถูกที่เนื้อผ้าไม่ดี
หรือการตัดเย็บไม่ดี จะทำให้เสื้อผ้าเหล่านั้นเสื่ อมสภาพเร็ว หลังจากซักไปเพียงไม่กี่ครั้ง
3. ซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีคุณภาพ
เป็นของชิ้นใหญ่ ที่ควรลงทุนเพื่อความสะดวกสบาย และควรตระหนักถึงการประหยัดพลังงานด้วย
เพราะการประหยัดค่าไฟก็ช่วยคืนเงินในกระเป๋าได้ด้วย
4. ลดรายจ่ายเรื่องเสื้อผ้า
เราควรเปลี่ยนสิ่งที่ไม่ใช้แล้ว ให้มาเป็นเงินเข้ากระเป๋าจะดีกว่านะ รวมไปถึงเสื้อผ้าที่กำลังล้นตู้อยู่ด้วย
ซึ่งหลายคน มีเสื้อผ้าเยอะมาก แต่ใส่ไปไม่ถึง 50 เปอร์เซ็นต์ของทั้งหมดแนะนำว่าให้ตัดใจ
แล้วนำไปขายต่อเอาเงินมาเก็บเพิ่มจะดีกว่านะ
5. อย่าบ้ าสะสม
แม้ว่าของสะสม เป็นของที่มีคุณค่าทางจิตใจก็จริง แต่อย่างไรก็ตาม ใครที่เป็นนักสะสม
ก็มักจะเต็มไปด้วยรายจ่ายที่รั่ วไหล ถ้าคุณไม่หยุดตัวเองเลย เมื่อมองย้อนกลับมาอีกที
อาจพบว่ามีของสะสมอยู่เต็มบ้านไปหมด แต่เงินในบัญชีกลับว่างเปล่า
6. ยกเลิ กการเป็นสมาชิกที่ไม่ได้ใช้
อย่างเช่น ฟิตเนสที่สมัครไว้ เพราะอยากหุ่นดี แต่ก็ไม่เคยมีเวลาว่างไปสักทีอย่าลืมว่า
คุณสามารถต่ออายุการเป็นสมาชิกในภายหลังได้ ถ้าไม่ได้ไปจริงๆก็ยกเลิกไปก่อนก็ได้
7. สนุกกับความบันเทิงง่ายๆ
การไปเที่ยวตามห้างสรรพสินค้า หรือเที่ยวข้างนอกจะทำให้เรา ได้พบกับสิ่งล่อตาล่อใจมากมาย
จนจ่ายเงินไปในจำนวนมากกว่าที่ตั้งใจเอาไว้นั่นเอง ลองมีสักวันที่คุณสร้างความสุขและความบันเทิงง่ายๆ
ได้ที่บ้าน อย่างฟังเพลง ดูทีวีอ่ านหนังสือเป็นอีกเทคนิคเล็กๆ น้อยๆ ในการลดรายจ่ายเรื่องความบันเทิงได้ด้วย
8. ใช้ระบบขนส่งสาธารณะบ้าง
การโดยส ารด้วยรถสาธารณะ จะช่วยให้คุณประหยัดเงิน ได้เป็นอย่างมากเลยทีเดียว
และยังช่วยประหยัดพลังงานแทนการขับรถยนต์ส่วนตัวอีกด้วย หรือลองซื้อบัตร
ประเภทรายเดือนของรถไฟฟ้า รถเมล์ ก็จะพบว่าค่าโดย ส า ร ยิ่งถูกลงไปอีก
9. เปรียบเทียบก่อน และใช้กฎ 24 ชั่ วโมง
เวลาที่คุณอยากซื้อ ของราคาสูงๆ ให้กลับบ้านไปแล้วไตร่ตรองอีกสัก 24 ชั่ ว โมงก่อน
แล้วค่อยวกกลับมาซื้อมันอีกครั้ง เพราะถึงเวลานั้นบางทีเราก็อาจจะไม่อยากได้แล้วก็ได้
หรือลองคำนวณราคาสิ่งของที่จะซื้อเปรียบเทียบกับจำนวนค่าตอบแทนรายวันที่ได้จากการทำงานของคุณ
ลองทำแบบค่อยเป็นค่อยไป แล้วคุณจะพบว่าตัวเองนั้นมีเงินเหลือเยอะขึ้นอย่างแน่นอน
10. หยุดใช้บัตรเ ค รดิ ตจ่ายล่วงหน้าถ้าไม่จำเป็น
เพราะความสะดวก ของบัตรเครดิต ก็ทำให้เราใช้เกินงบประมาณที่ตั้งไว้ด้วย จนทำให้เก็บเงินได้ไม่ถึงเป้าหมาย
เทคนิคง่ายๆ ก็คือ ให้เขียนข้อความเตือนตัวเองไว้บนกระดาษเล็กๆ แปะบนบัตรเครดิตเอาไว้เลย เป็นข้อความเตื อนใจให้คิดก่อนซื้อ
11. ค่าอาหารรายจ่ายประจำที่ลดได้
ค่าอาหาร เป็นหนึ่ง ในค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่ที่สุด ก้อนหนึ่งในชีวิตประจำวันเลยก็ได้วิธีหนึ่งที่จะช่วยลดรายจ่ายได้
ก็คือ การประหยัดค่าใช้จ่ายก้อนนี้ให้มากขึ้นสำหรับการลดรายจ่ายค่าอาหารสามารถทำได้โดยการทำอาหารทานเอง
การทำอาหารไปทานเองจะช่วย ให้เราประหยัดค่าใช้จ่ายกว่าซื้อทานข้างนอก
12. ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ
ร้านค้าหลายร้าน มักมีสิทธิพิเศษให้เมื่อเราไปช้อปปิ้ง ก็ขออย่าละเลยสิทธิพวกนี้
เพราะบางทีคุณอาจได้รับเช็ คของขวัญ บัตรกำนัลดีๆ ที่ทำให้ประหยัดเงินไปได้อีกเยอะเลย
13. จดบันทึกให้เป็นนิสัย
เราควรจดบันทึกรายรับรายจ่าย ให้เป็นนิสัย เพราะจะทำให้รู้ว่าเราหมดเงินไปกับอะไร
และช่วยให้เราสามารถตัดสิ่งที่ไม่จำเป็นออกไปได้ด้วย ซึ่งปัจจุบันมีแ อปพลิเคชันรายรับรายจ่าย
มากมายที่ทำให้เราสะดวกในการใช้งาน ให้คุณได้เลือกลองใช้
14. งบประมาณควรแบ่งประเภทและลำดับความสำคัญ
เมื่อเราเห็นงบประมาณ รายจ่ายทั้งหมดหลังหัก เงินออมที่คาดหวังไว้แล้ว ทั้งนี้ทั้งนั้นเมื่อเราเริ่มลงมือจริง
แต่หลายครั้งก็จ่ายไม่ได้จริงตามที่ตั้งใจไว้ เพราะมักจะจ่ายให้กับสิ่งที่ไม่สำคัญก่อน เช่น จ่ายให้กับค่าอาหาร
ที่อยากทานในแต่ละวันก่อน จนลืมคิดไปว่ามีส่วนที่สำคัญที่จะตามมาในช่วงปลายเดือน เช่น ค่าเช่าบ้าน ค่าน้ำค่าไฟ เป็นต้น
15. ตั้งต้นด้วยเงินออม
หลายคนคิดว่า เงินเก็บหรือเงินออมนั้น คือเงินที่เหลือจากการใช้จ่าย รายได้ลบรายจ่ายเท่ากับเงินออม
ซึ่งวิธีการคิดแบบนี้ก็ถูกต้อง แต่ไม่ใช่แนวคิดตั้งต้นที่ดี แต่ที่สำหรับคนที่อยากเก็บเงินให้ได้อย่างมีวินัย
เราไม่ควรมองเงินออมเป็นเงินเหลือ แต่ควรมองเป็นเงินที่ถูก “ จัดหมวด ห มู่ ” เอาไว้ว่า นี่คือเงินออมโดยเฉพาะนะ
16. เลือกบัญชีธนาคารที่ได้ด อกเบี้ ยดีๆ
เพื่อสร้างผลตอบแทน เพิ่มขึ้นจากการฝากเงินทั่วไป แบบการเลือกหั ก บัญชีแบบอัตโนมัติบัญชี
ก็สามารถสร้างวินัยการออมได้เหมือนกัน จะได้ไม่ต้องกังวลว่าเดือนนี้ได้ออมเงินหรือยัง
ซึ่งวิธีนี้ง่ายต่อการไปถึงเป้าหมายการออมที่วางไว้ด้วย
17. อย่ามีเฉพาะบัญชีออมทรัพย์
แนะนำ ให้ลองฝากประจำบ้าง หรือลงทุนแบบ หักอัตโนมัติบัญชีบ้างก็ดี เพื่อสร้างวินัยการออมจะได้ไม่ต้องกังวล
ว่าเดือนนี้ได้ออมเงินหรือฝากเงินเข้าธนาคารแล้วหรือยัง ซึ่งวิธีนี้ง่ายต่อการไปถึงเป้าหมายการออมที่วางไว้ด้วยนั่นเอง
ขอขอบคุณ t h e – w a y o f l i f e