
1. เริ่มมีความสุขกับสิ่งที่คุณมี
อย่าเพิ่งไปคิดถึงสิ่งที่คุณยังไม่มี หรือคาดคิดว่าจะมี เพราะมันยังมาไม่ถึง และนั่น
กลายเป็นปัญหาอย่างมากของคนหลายคนคือคิดว่าจะมีความสุขได้ต่อเมื่อต้องมีอย่างนั้นมีอย่างนี้
คุณต้องไม่ลืมว่าของที่คุณมีอยู่ทุกวันนี้ก็เพียงพอจะสร้างความสุขให้คุณได้อยู่แล้ว
(และเอาจริงๆ คุณก็เคยมีความสุขกับมันมาแล้ว) ยิ้มให้กับมันหน่อยสิครับ
2. เริ่มรับผิดชอบกับชีวิตตัวเอง
อย่าเอาชีวิตคุณไปฝากไว้กับคนอื่น คุณคือเจ้าของชีวิตคุณเอง
เริ่มให้ความสนใจ ให้ความสำคัญกับมันเพราะคุณคือคนที่จะต้องอยู่กับมันไปทั้งชีวิต (และเป็นคนสุดท้ายด้วย)
รับผิดชอบในตัวเองคือสิ่งสำคัญที่คุณต้องทำ อย่าโยนความรับผิดชอบให้คนอื่น
เพราะเขาไม่ได้มานั่งรับผิดชอบอะไรกับชีวิตของคุณหรอก มีแต่คุณเองเท่านั้นที่จะกำหนดว่าชีวิตของคุณจะเป็นอย่างไรต่อไป
3. เริ่มแข่งกับตัวเองแบบวันก่อนๆ
มันคงเป็นเรื่องไม่ดีแน่ถ้าคุณจะเป็นแบบเดิมตลอดไป คุณต้องเริ่มมองหาว่าคุณจะดีขึ้นจากเดิมได้อย่างไร
อะไรคือสิ่งที่คุณจะได้ให้ได้มากกว่าเดิม ดีกว่าเดิม อย่าเพิ่งไปแข่งกับคนอื่น
(และเอาจริงๆ คือไม่ต้องไปแข่งกับคนอื่นหรอกครับ) แต่โฟกัสที่จะแข่งกับตัวเอง ให้ดีขึ้นไปเรื่อยๆ
4. เริ่มทัศนคติในเรื่องความเป็นไปได้และการคิดบวก
บอกตัวเองว่า “มันเป็นไปได้” คือพื้นฐานที่สำคัญของการทำให้คุณกล้าจะก้าวเดินต่อไป กล้าจะรับโอกาสใหม่ๆ
การคิดบวกคืออาวุธที่จะเอาชนะทัศนคติแง่ลบที่ บั่ น ท อ น ชีวิตและความรู้สึกของคุณ
ลองพูดคุยกับตัวคุณเอง เมื่อไรที่คุณรู้สึกแง่ลบขึ้นมา เปลี่ยนมันเป็นการคิดบวก
ลงมือทำในสิ่งที่คุณเชื่อ ลงมือในสิ่งที่คุณต้องการให้มันเกิดขึ้น
ทุกอย่างมันมีสองด้านอยู่แล้ว มันอยู่ที่ว่าคุณจะเลือกสนใจกับฝั่งไหนมากกว่ากัน
5. เริ่มมองหาความหวังแม้ใน ย า ม ย า ก
คนเราต้องเจอปัญหาและหลายๆ ครั้งทำเอาเราทรุดจนแทบไม่ อ ย า ก ลุกขึ้นมา อย่าเพิ่งไปยอมแพ้
มันแต่มองหาความหวังที่แม้จะน้อยนิดแต่ก็ดีเสียกว่าไม่มีอะไรเลย แม้แสงสว่างจะมีน้อยนิดในความมืด
แต่นั่นก็ทำให้มันไม่มืดสนิทจนมองไม่เห็นอะไร อย่าลืมบอกตัวเองว่าทุกครั้งที่ ย า ก ลำบากจะทำให้คุณแกร่งขึ้น
ความหวังนี้จะทำให้คุณไปถึงสิ่งที่ดีกว่าในวันข้างหน้าสักวัน
6. เริ่มใส่ใจกับความงามเล็กๆ น้อย
แทนที่จะรออะไรยิ่งใหญ่มาสร้างความประทับใจ ลองมองอะไรที่งดงามรอบตัวคุณ
ที่แม้จะไม่ใช่อะไรที่ใหญ่โตแต่มันก็มีคุณค่า รอยยิ้มจากคนรอบข้าง น้ำใจของคนที่ผ่านไปผ่านมา ฯลฯ
สิ่งเหล่านี้มันทำให้คุณรู้สึกว่าโลกนี้ยังมีอะไรดีๆ อีกเยอะให้คุณค้นหา ความสุขมันอยู่รอบตัวคุณ
โดยที่คุณไม่ต้องทนรออะไรใหม่ๆ เสมอไป และบางทีมันก็ทำให้ชีวิตของคุณเปลี่ยนไปได้ทันทีเลยด้วยซ้ำ
7. เริ่มก้าวไปสู่เป้าหมายที่คุณวางไว้ในทุกๆ วัน
อย่าผลัดวันประกันพรุ่ง คุณรู้ดีว่าเป้าหมายของคุณคืออะไรและคุณจะไปไม่ถึง
ถ้าคุณไม่ก้าวไปหามัน วางแผนให้ดีและลงมือทำในทุกๆ วัน จะเล็กจะน้อยก็ให้มันขับเคลื่อนไป
ฉะนั้นเริ่มทำอะไรเสียแต่วันนี้ แล้ววันหนึ่งคุณก็จะไปถึงเป้าหมายได้แน่นอน
8. เริ่มยอมรับสิ่งต่างๆ แม้ว่ามันจะไม่สมบูรณ์แบบก็ตาม
จำไว้ว่า “สมบูรณ์แบบ” เป็นศัตรูกับ “ดี” เพราะมันทำให้หลายๆ
ครั้งคุณไม่พอใจกับสิ่งที่ดีและมีอยู่แล้ว จริงอยู่ว่าคุณอาจจะมีความทะเยอทะ ย า น
และภาพฝันที่อ ย ากให้เป็น แต่ในหลายๆ ครั้ง
คุณก็ต้องยอมรับกับสิ่งที่ได้มาแม้ว่ามันจะไม่ได้เพอร์เฟคแต่มันก็ “ดี” อยู่แหละ
และแม้ผลลัพธ์อาจจะไม่ได้คะแนนเต็ม 100 แต่คุณค่าของมันอาจจะไม่ใช่แค่ผลลัพธ์
แต่ยังมีเรื่องราวที่เกิดขึ้นระหว่างทางอีกมากมายด้วย
9. เริ่มให้อภัยตัวคุณเองและคนอื่นๆ
การถือโทษโกรธ อ า ฆ า ต จะนำไปสู่อะไรได้นอกจากพันธนาการที่ทำให้เราจมดิ่งอยู่กับอารมณ์และความ เ จ็ บ ป วด
ปลดปล่อยมันออกด้วยการบอกให้อภัยโดยเฉพาะกับตัวคุณเองนั่นแหละ
แล้วเผื่อแผ่ไปยังคนอื่นๆ ด้วย การให้อภัยไม่ใช่แปลว่าคุณลืมเรื่องที่เกิดขึ้นหรือเหมือนมันไม่เคยเกิดอะไรขึ้น
แต่มันคือการที่คุณยอมรับและปล่อยให้มันเป็นอดีตแทนที่จะให้ตามมาหลอนในปัจจุบัน
10. เริ่มจะจริงจังกับความสัมพันธ์ของคุณ
การจริงจังกับความสัมพันธ์เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างคุณค่าให้กับชีวิตคุณเอง เผชิญหน้ากับคู่ของคุณแล้วบอกเขาว่า
เขาสำคัญอย่างไรกับคุณ คุณไม่สามารถเป็นทุกๆ อย่างให้กับทุกๆ คน
แต่คุณสามารถเป็นทุกๆ อย่างให้กับคน “บางคน” ได้ และคุณต้องเลือก (เสียที) ว่าพวกเขาคือใคร
11. เริ่มสนใจกับสิ่งที่คุณควบคุมได้
คุณไม่สามารถเปลี่ยนแปลงทุกอย่างได้ แต่อย่างน้อยคุณก็มีสิ่งที่คุณสามารถควบคุมได้ และนั่นคือ
สิ่งที่คุณควรเอาสติและสมาธิมาจดจ่อกับมัน อย่าไปเสียเวลากับสิ่งที่คุณควบคุมไม่ได้
แต่ใช้เวลาให้คุ้มค่าที่สุดกับสิ่งที่คุณสามารถ “ทำได้”
12. เริ่มเชียร์คนอื่น
การร่วมเชียร์และลุ้นไปกับคนอื่นคือหนึ่งในสิ่งที่ทำให้คุณเห็นคุณค่าบางอย่างนอกเหนือจากของตัวเอง
คุณต้องกล้าที่จะบอกว่าคุณชื่นชมคนอื่นเรื่องไหน เริ่มชื่นชมในสิ่งที่คนอื่นเป็นและร่วมเป็นกำลังใจให้กับพวกเขา
ยินดีไปกับเขา มันคือก้าวสำคัญที่ทำให้คุณได้เห็นความงามอื่นๆ ที่มีอยู่มากมายรอบตัวคุณ
13. เริ่มสังเกตว่าคุณ “สมบูรณ์ดี” แค่ไหนแล้วตอนนี้
คุณดีแค่ไหนแล้วที่มีข้าวกิน คุณดีแค่ไหนแล้วที่มีเสื้อผ้าให้เปลี่ยน
คุณดีแค่ไหนแล้วที่มีน้ำให้อาบ มีบ้านให้อยู่ มีไฟให้ใช้ มี ย า รั ก ษ า โ ร ค มีน้ำสะอาดให้ดื่ม ฯลฯ
คุณมีความสมบูรณ์มากมายที่คุณอาจจะเคยมองไม่เห็น ลองมองดูดีๆ คุณจะเห็นว่าชีวิตคุณดีแค่ไหนแล้ว
14. เริ่มเปิดเผยกับความรู้สึกที่แท้จริงของคุณ
ถ้าคุณเ จ็ บ ป ว ด ก็บอกว่าคุณ เ จ็ บ ป ว ด มันไม่มีใครสร้างอนุเสาวรีย์ให้คุณที่มัวแต่เก็บความรู้สึกเอาไว้หรอก
ในทางตรงกันข้าม การเผยความรู้สึกของคุณออกมาจะทำให้คนรอบข้างของคุณได้เข้าใจตัวคุณมากขึ้น
และทำให้คุณได้หาทางอยู่ร่วมกับคนอื่นได้มากขึ้นแทนที่จะต้อง พ ย า ย า ม อดทนและฝืนแบกความทุกข์เอาไว้
15. เริ่มเป็นตัวของคุณเอง อย่างจริงใจ และภูมิใจ
อะไรจะดีไปกว่าการที่คุณรู้สึกดีกับตัวคุณเอง ไม่ว่าคุณจะอยู่ในสถานะไหน มีพื้นฐานอย่างไร
คุณก็มีดีมากพอที่จะยินดีกับตัวคุณเอง (อย่างน้อยคุณก็ยังมีชีวิตอยู่แหละนา)
อย่าไป พ ย า ย า มเป็นคนอื่นหรือคนที่คุณไม่ได้เป็นเพราะนั่นคือการ ดู ถู ก ตัวคุณเองอย่างไม่จำเป็นเลย
จงเป็นสิ่งที่ตัวคุณเองเป็น ในแบบที่ดีที่สุด แบบที่คุณภูมิใจกับมันที่สุด
16. เริ่มสังเกตและใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบัน
การอยู่กับปัจจุบันคือเคล็ดลับการมีความสุข ถ้าคุณมัวแต่คิดเรื่องอดีต
คุณก็จะไม่ไปไหน ถ้าคุณกังวลแต่เรื่องอนาคต คุณก็จะลืมมองปัจจุบันไป
อย่าลืมว่าทุกอย่างเริ่มต้นจาก “วันนี้” ไม่ใช่ “เมื่อวาน” หรือ “พรุ่งนี้”
17. เริ่มให้คุณค่ากับความผิดพลาดที่สอนคุณ
ทุกความผิดพลาดคือบทเรียนที่จะทำให้คุณโตขึ้น มันจึงควรค่าที่จะถูกมอง
และให้ความสำคัญมากกว่าจะมองข้ามมันไป ความผิดพลาดมันเหมือนขั้นตอนไปสู่ความสำเร็จ
ให้ความสำคัญและเรียนรู้มันไปกับย่างก้าวของชีวิตคุณ เพื่อให้คุณไปสู่วันใหม่ที่ดีกว่าเดิมสิครับ
18. เริ่มสุภาพกับตัวเอง
จะมีประโยชน์อะไรถ้าคุณเอาแต่ด่าตัวเองด้วยคำห ย า บ เราต่างรู้ดีกันว่า
การใช้คำ ห ย า บ มันมีแต่ทำให้ตัวเองรู้สึกแย่เท่านั้น ฉะนั้นแล้ว
คุณไม่ควรจะ ทำ ร้ า ย คนที่คุณควรรักมากที่สุด (ก็ตัวคุณเองนั่นแหละ) ด้วยคำพูดแบบนั้นเลย
19. เริ่มเผชิญหน้ากับปัญหาของคุณ
ปัญหาต่างๆ ไม่ได้เป็นตัวบ่งบอกความเป็นตัวคุณ แต่วิธีการที่คุณจัดการกับปัญหา
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับมันคือสิ่งที่สะท้อนความเป็นตัวตนของคุณต่างหาก
เช่นเดียวกัน ปัญหาจะไม่มีวันหายไปถ้าคุณไม่ลงมือทำอะไรสักอย่าง เริ่มลงมือแก้ปัญหา
แม้ว่ามันจะทีละเล็กทีละน้อย แต่มันก็คือก้าวที่ทำให้คุณเดินไปข้างหน้า ไม่ใช่นิ่งๆ อีกต่อไป
20. เริ่มซื่อสัตย์กับตัวเองในทุกๆ เรื่อง
คุณรู้ตัวเองอยู่แล้วว่าอะไรดีไม่ดี และอะไรที่ต้องถูกปรับเปลี่ยน
แต่เพราะที่ผ่านมาคุณไม่ซื่อสัตย์กับตัวเองเลยไม่ได้ลงมือทำอะไร
มันจึงเป็นเรื่องจำเป็นที่คุณต้องเริ่มซื่อสัตย์กับตัวเองว่าคุณคือใคร
ต้องการอะไร และต้องทำอะไร คนที่จะรับผิดชอบตัวคุณก็คือตัวคุณเอง
และคุณคือคนที่จะออกแบบตัวคุณเอง ออกแบบมันอย่างซื่อสัตย์ที่สุด
จริงใจกับมันที่สุด เพราะนั่นคือสิ่งที่ตัวคุณคาดหวังจะได้จากคุณเช่นกัน
21. เริ่มให้ความสำคัญกับการสร้างความสุขให้ตัวเอง
ความต้องการของคุณมันเป็นสิ่งสำคัญเสมอเช่นเดียวกับคุณค่าของตัวคุณ ถ้าคุณยังไม่ให้คุณค่ากับตัวคุณเอง
แล้วใครจะมาให้แทนได้อีก? จงจำไว้ว่าคุณสามารถหาทางให้ความสุขกับตัวคุณเองในขณะที่
ยังสามารถแคร์คนรอบข้างคุณได้ ไม่ใช่เอาแต่แคร์คนอื่นจนไม่ให้ความสุขตัวเอง
22. เริ่มใช้เวลากับคนที่ใช่
การอยู่กับคนที่ใช่ คนที่คุณควรแคร์ และคนที่แคร์คุณคือช่องเวลาที่สุดจะมีค่าของชีวิตคุณ
พวกเขาคือกลุ่มคนที่ทำให้คุณรู้สึกถึงคุณค่าของการมีคนสำคัญอยู่ข้างๆ
พวกเขามอบความรักและมิตรภาพที่แท้จริงให้กับคุณ
มองหาพวกเขาให้เจอว่าคือใคร พวกเขาคือคนที่อยู่กับคนใน ย า ม ย า ก ลำบาก
เขาคือคนที่ยอมรับในสิ่งที่คุณเป็นเช่นเดียวกับสิ่งที่คุณ อ ย า กจะเป็นโดยไม่มีข้อแม้ใดๆ หาคนเหล่านั้นให้เจอครับ
23. เริ่มสร้างความสุขของคุณเอง
คนบางคนมักไปรอมีความสุขกับความสุขของคนอื่น และยิ่งถ้าคุณรอ มันก็ยิ่งเหมือนเอาชีวิตของคุณไปฝากไว้กับคนอื่น
ซึ่งก็ไม่รู้ว่ามันจะสำเร็จเมื่อไร แล้วทำไมคุณไม่สร้างความสุขของตัวคุณเองด้วยตัวคุณเองล่ะ?
หาความสุขในแบบของคุณเองที่คุณสามารถทำได้ด้วยตัวเองเสียดีกว่า ความสุขนั้นมักจะปรากฏ
เมื่อคุณ พ ย า ย า ม จะค้นหามันและเอาจริงๆ คุณก็จะเจอมันในชีวิตของคุณอยู่แล้วล่ะ
24. เริ่มให้โอกาสกับไอเดียหรือความฝันของคุณ
ไอเดียของคุณอาจจะไม่ใช่ไอเดียใหม่ ความฝันของคุณอาจจะซ้ำกับคนอื่นบ้าง
แต่ก็ไม่ใช่ว่ามันจะไม่มีโอกาสได้ทำให้เป็นจริง ไอเดียของคุณควรค่าจะได้ทดลอง
ได้ทดสอบ ความฝันของคุณควรค่าจะได้ตามหา ต่อให้มันไม่เวิร์คก็ไม่เป็นไร
แต่อย่างน้อยก็ให้มันได้มี “ชีวิต” กับเขาบ้างเสียดีกว่าให้มันไม่ได้เกิดขึ้นเลยสักนิด
25. เริ่มเชื่อเสียทีว่าคุณพร้อมสำหรับก้าวต่อไป
บอกตัวเองได้เลยว่าคุณพร้อมอยู่แล้ว คุณมีทุกอย่างที่พร้อมจะทำให้คุณก้าวไป
เพียงแต่ก้าวนั้นอาจจะสั้นหรือจะ ย า ว แค่นั้น ถ้าโอกาสมาถึงคุณ
คุณก็ควรจะคว้ามันไว้ (เหอะ) เพราะคุณมีดีพอจะคว้าโอกาสไว้แล้ว
26. เริ่มมีความสัมพันธ์ใหม่ด้วยเหตุผลที่ดีพอ
คนรอบข้างคุณคืออีกด้านหนึ่งของการแสดงว่าคุณเป็นคนยังไง ความสัมพันธ์นี้ไม่ใช่แค่คู่รักอย่างเดียว
แต่หมายถึงเพื่อนๆ และคนสำคัญรอบตัวคุณด้วย กลุ่มเพื่อนคือสัญลักษณ์ที่บอกว่าคุณเป็นคนยังไง
ฉะนั้นแล้วพิจารณาพวกเขาให้ดีโดยเฉพาะสิ่งที่พวกเขากระทำ เพราะนั่นคือสิ่งที่สะท้อนตัวตนของพวกเขานั่นเอง
27. เริ่มให้โอกาสกับคนที่คุณรู้จักใหม่ๆ
ฟังอาจจะดูแปลกๆ แต่คนที่คุณเพิ่งรู้จักใหม่อาจจะกลายเป็นเพื่อนสนิทที่ดีกว่าเพื่อนคนก่อนของคุณก็ได้
คุณต้องกล้าที่จะให้พวกเขาได้เข้ามาในชีวิตของคุณ ค้นหาว่าเขาเข้ากับคุณได้ดีแค่ไหน
จริงอยู่ว่าการรู้จักกับคนใหม่ๆ อาจจะเป็นเรื่องน่ากังวลอยู่บ้าง แต่มันก็อาจจะทำให้คุณเจอคนที่ “ใช่” ได้เช่นกัน
28. เริ่มช่วยเหลือคนรอบข้างคุณ
ยิ่งคุณช่วยคนอื่นมากเท่าไร คนอื่นจะช่วยคุณกลับมากขึ้น (ในอนาคต) ความรักและน้ำใจเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้เราชื่นใจกับการมีชีวิต
และคุณไม่มีทางได้มันมาหากคุณยังไม่เริ่มจะมอบให้คนอื่น
29. เริ่มฟังเสียงลึกๆ ของตัวคุณเอง
หลายๆ ครั้งคุณต้องกล้าฟังเสียงลึกๆ ของตัวคุณเอง เพราะนั่นคือความรู้สึกที่แท้จริงของคุณ
ให้โอกาสมัน ซื่อสัตย์กับมัน และกล้าให้มันเป็นเสียงของคุณในวันนี้
30. เริ่มใส่ใจกับความ เ ค รี ย ด ของคุณและหยุดพักเสียบ้าง
การให้โอกาสตัวคุณเองได้หยุดพัก ได้ตั้งสติ เป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้คุณก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง
การ พ ย า ย า ม เค้นตัวเองมากเกินไปก็จะ ทำ ร้ า ย ตัวคุณเองแทนที่จะผลักดันคุณ
ถ้าคุณรู้สึกว่ามันตึงเกินไป มันเข้มเกินไป ก็พักเสียงบ้างดีกว่า
ขอขอบคุณ nuttaputch