
1. ไม่มีเวลา
ทุกคน ก็มีวันละ 24 ช.ม. เท่ากัน แต่ทำไมบางคน เขาถึงทำในสิ่งที่คุณทำไม่ได้ละ…?
ไม่มีใครสนใจหรอก ว่าคุณจะใช้เวลาไปกับเรื่องอะไร คนอื่นมองแค่ ผลลัพธ์ของคุณเท่านั้น…
ถ้าคุณบริหารเวลาได้ไม่ดีพอ ผลลัพธ์ชีวิตของคุณ มันก็ตอบด้วยตัวของมันเองอยู่แล้ว
2. ทำไม่เป็น
ทุกคนมีครั้งแรก ด้วยกันทั้งนั้น ทำไม่เป็น ไม่ได้แปลว่า ทำไม่ได้…
ถ้าอยากเห็นความสามารถของตัวเองอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ก็ต้องลองลงมือทำ
หากมัวแต่อ้างว่าทำไม่เป็นไปเรื่อยๆ ต่อไปวันข้างหน้าคุณจะทำอะไรไม่เป็นเลยจริงๆ
3. ไม่ได้เรียนมาทางนี้
ความรู้ ไม่ได้สิ้นสุด แค่ในรั้วมหาลัย ใบปริญญาไม่ได้การันตีอนาคต
ถ้าคุณเลือกที่จะหยุดเรียน ก็ห้ามบ่นถึง เรื่องความก้าวหน้า เพราะมันจะไม่มีวันเกิดขึ้น
4. ยังไม่พร้อม
คำนี้มองได้สองมุม ทั้งนี้ต้องดูวิสัยทัศน์ ของคนพูดด้วย ว่าเขากำลัง “รอจังหวะ” หรือ “ขี้เกียจทำ”
วิธีสังเกตุง่ายๆ คือ ให้ดูการเตรียมพร้อมของคนๆนั้น หากเขารอจังหวะ และ โอกาสจริงๆ
คือ เขาเตรียมพร้อมที่จะทำแล้ว แค่รอโอกาสที่เหมาะสมต่างกับคนที่ขี้เกียจทำ
คือ ต่อให้มีโอกาสที่เหมาะสม เขาก็ไม่พร้อมที่จะทำ
5. ไม่มีอะไรใหม่ๆ ให้ทำแล้ว
ไม่มีอะไรจำกัดของคำพูดประโยคนี้ได้ นอกจากคำว่า “ขี้เกียจ”คำว่าใหม่ๆ
ไม่ได้หมายถึงการสร้างสิ่งใหม่ แต่ทำสิ่งเดิมๆให้ดีขึ้นก็ถือเป็นเรื่องใหม่ได้
6. ไม่มีเงิน
ไม่มีเงิน ไม่ใช่ประโยคคำถาม เพราะฉะนั้น คุณไม่มีวันวิ่งหาคำตอบได้หรอก…
สิ่งที่คุณควรจะถามตัวเองคือ “ เราจะหาเงินจากช่องทางไหนได้บ้าง…? ”
เศรษฐีหลายคนก็เริ่มต้นจากไม่มีเงิน แต่เขาไม่ยอมแพ้ต่อฐานะ
จนสร้าง เ นื้ อ สร้างตัวขึ้นมาได้นะ
ฝากไว้ให้คิด…!!
ไม่มีเศรษฐีคนไหน ร่ำรวยจากการ “ ประหยัดรายจ่าย ”
แต่เค้ารวย จากการหาหนทาง “ สร้างรายได้ ”
ไม่มีเศรษฐีคนไหนร่ำรวย จากการ “ ทำงานง่าย ”
แต่เค้ารวย จากการ “ ทำงานยาก แก้ไขปัญหายากๆ ให้ผู้คนได้ ”
ไม่มีเศรษฐีคนไหน ร่ำรวยจากการ “ ทำงานหนัก ”
แต่เค้ารวยจากการ “ ทำงานฉลาด ”
ไม่มีเศรษฐีคนไหนร่ำรวยจากการ “ คิดเยอะ ”
แต่เค้ารวยจากการ “ เลือกที่จะคิดแค่เฉพาะเรื่องที่จำเป็น ”
ไม่มีเศรษฐี คนไหนร่ำรวยจากการ “ ขายแรง ”
แต่เค้ารวยจากการ “ ขายไอเดีย ”
ไม่มีเศรษฐีคนไหนร่ำรวยจากการ “ ปฏิเสธโอกาส ”
แต่เค้ารวยจากการ “ เปลี่ยนทุกเวลาให้เป็นโอกาส ”
ขอขอบคุณ Ramet Tanawangsri