
เคยสงสัยกันหรือเปล่า ว่าทำไมมนุษย์เงินเดือนบางคนก็ดูมีตังเยอะ บางคนก็ใช้ชีวิตดูไฮโซมากๆ แต่พอสิ้นเดือนกลับมานั่งกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ต้นเดือนนี่มีชีวิตอย่างราชา
ไม่เกินกลางเดือนกลับแผ่วลง แต่บางคนที่ไม่ได้มีวิถีชีวิตหรูหราอะไร แต่ไม่นานก็มีบ้านใหม่ มีหลักทรัพย์ดีๆ น่าสนใจนะครับ เพราะว่าความมั่งคั่งทางการเงินหรือฐานะ
ที่มั่นคงนั้นมาจาก “พฤติกรรม” การใช้เงินในทุกๆ วันนั่นเองลองมาดูกันหน่อยว่า คุณมีพฤติกรรมพลาดๆ เหล่านี้บ้างหรือไม่
1.สร้างหนี้
ก่อนจะสร้างทรัพย์สิน หนึ่งในความปรารถนาอันดับต้นๆ ของน้องนักศึกษาจบใหม่ที่เพิ่งเริ่มทำงาน ความรู้สึกภูมิใจที่สามารถหารายได้ด้วยตัวเอง ความรู้สึกของการเป็นผู้ใหญ่
อยากมีชีวิตอิสระหลายๆ คนตัดสินใจเริ่มผ่อนคอนโดหลายคนเริ่มผ่อนรถ ด้วยสิทธิพิเศษของความเป็นมนุษย์เงินเดือนยิ่งตอบสนองความต้องการให้เป็นไปได้ง่ายขึ้น เพราะ
พนักงานประจำจะมีความสามารถในการกู้ยืมเงินได้ง่ายกว่าอาชีพอิสระแต่อย่าลืมนะครับว่า การกู้เงินย่อมมาพร้อมกับ ด อ ก เ บี้ ย ยิ่งกู้มาก ด อ ก เ บี้ ย ยิ่งสูงมาก กว่าจะผ่อนหมด
มักจะใช้เวลากว่าสิบปี ลองไปคิดกันดูนะครับว่า ระหว่างยอมอดทนเก็บเงินจนครบจำนวนแล้วค่อยไป ซื้ อ กับการที่ต้องยอมเสีย
ด อ ก เ บี้ ย ในจำนวนที่เทียบเท่ากับราคาสินทรัพย์ที่ ซื้ อ
อันไหนจะคุ้มกว่ากัน นอกจากเรื่อง ด อ ก เ บี้ ย แล้วยังแถมด้วยความ เ ค รี ย ด ในภาวะลูกหนี้ และความ เ สี่ ย ง ของการผิดชำระหนี้เนื่องจากการถูกยกเลิกการจ้างงานประจำ
2.ไม่ออมเงิน ไม่เตรียมแผนการเกษียณ
ช่วงวัยทำงาน ที่ยังมีเงินเดือนเข้าบัญชีเป็นประจำทุกเดือน อาจจะทำให้ลืมนึกถึงวันข้างหน้าในวัยเกษียณ ในวันที่ไม่มีเงินไหลเข้าในบัญชีอีกต่อไปอย่าลืมว่าการที่เรา
เป็นมนุษย์เงินเดือนนั้นเราต้องรับผิดชอบตัวเองในด้านการใช้จ่ายหลังจากวัยเกษียณ เราไม่มีบำนาญเหมือนสายงานราชการ จะหวังให้ลูกให้หลานเลี้ยงก็คงจะไม่ดียิ่งถ้า
ตัดสินใจจะใช้ชีวิตโสดในบั้นปลายยิ่งต้องเตรียมตัวเกษียณให้ดี ไหนจะค่ารักษา พ ย า บ า ล ค่าการดำรงชีวิตซึ่งแน่นอนว่าทุกคนต่างหวังที่จะใช้ชีวิตบั้นปลายอย่างมีความสุข
เคยคิดไหมครับว่าคุณอยากมีเงินก้อนในวันที่เกษียณงานเป็นจำนวนเท่าไหร่ แล้ววันนี้คุณเริ่มเก็บเงินหรือยังครับ
3.เป็น ท า ส ของความฟุ้งเฟ้อ
การใช้เงิน ซื้ อ ความสุขไปวันๆ ไม่ว่าจะเป็นกาแฟร้านหรู เค้กร้านน่ารักๆ ร้าน อ า ห า ร ญี่ปุ่นต้นตำรับ หรือการสังสรรค์หลังเลิกงาน การทำงาน Office ทำให้เราพบปะกับ
คนหลายแบบหลายระดับ หลายๆ คนใช้กระเป๋า แ บ ร น ด์ เนม เครื่องสำอางราคาแพง Gadget ต้องอินเทรนด์ตลอด การพบอยู่ในสิ่งแวดล้อมเช่นนี้ทุกวัน ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่ง
ก ร ะ ตุ้ น ให้เราอยากมีอยากเป็นอยากได้เหมือนคนอื่นๆ แต่อย่าลืมว่าการจะตัดสินใจเลือกกิน เลือกใช้ เลือก ซื้ อ อะไร ควรคำนึงถึงความสถานภาพการเงินของเราดีกว่านะครับ
มีน้อยใช้น้อย ถึงมีมากก็ไม่จำเป็นต้องใช้มากออมเงินเพื่อความสุขในอนาคตจะดีกว่านะครับ
4.ไม่ดูแล สุ ข ภ า พ
ทั้งการรับประทาน อ า หา ร ที่เน้นเอาแต่ความอร่อย อุดมไปด้วยไขมัน และคาร์โบไฮเดรต ทั้งเครื่องดื่มน้ำตาลสูง ไหนจะข้ออ้าง
ส า ร พั ด ของการไม่ออกกำลังกาย ไหนจะความ เ ค รี ย ด
จากที่ทำงาน ยิ่งไปกว่านั้นหลายๆ คนยังเลือกที่จะ ทำ ลา ย สุ ขภ า พ ตัวเองเสียอีก ไม่ว่าจะ สุ ร า หรือ บุ ห รี่ หลายคนเริ่ม ทำ ลา ย สุ ข ภา พ ตัวเองตั้งแต่ยังมีอายุน้อยเราจึง
ยังไม่ค่อยเห็นผลลัพธ์ของการไม่ดูแล สุ ขภ าพ บางคนกิน เ ห ล้ า ทุกคืน เช้ามาก็ยังไปทำงานได้ ค่ารักษา พ ย า บ า ล ที่ Office มีประกันให้ก็ไม่ค่อยได้ใช้ ไม่แปลกหรอกครับ
ในเมื่อเรื่องของ สุ ข ภ า พ เป็นเรื่องของเวลา ช่วงนี้อาจจะมี Office Syndrome ไม่ว่าจะ ปว ด หลัง ปว ด เอวตาอักเสบมาเยี่ยมเยือนบ้าง แต่การปล่อยปละละเลยไม่ดูแล
ตัวเองตอนหนุ่มๆ สาวๆ มักจะมาปรากฏผลลัพธ์ที่ ร้ า ย แรงกว่าในช่วงปลายวัยทำงาน ไม่ว่าจะเป็น โ ร ค เบาหวาน คอเลสเตอรอลสูง ความดันโลหิตสูง ถึงตอนนั้น Office ก็
ไม่มีสวัสดิการมาดูแล สุ ข ภ า พ ให้เราแล้วนะครับ
5.ไม่พัฒนาตัวเอง
หลายๆ คนที่ทำงานประจำอยู่ มักจะนิ่งนอนใจเพราะเห็นว่า ด้วยความรู้ความสามารถที่มีอยู่ทุกวันนี้ ก็เพียงพออยู่แล้วสำหรับตำแหน่งงานที่ทำ อย่าลืมนะครับว่า โลกเราหมุนไปทุกวัน
เทคโนโลยีและความรู้ใหม่ๆ เกิดขึ้นทุกวัน มีนักศึกษาจบใหม่ทุกปี จริงอยู่ที่ว่าความสามารถของเราไม่ได้ แ ย่ ลง เพียงแต่มีคนที่เหมาะกว่าค่าจ้างถูกกว่า ถึงตอนนั้นเรา
จะมีที่ยืนตรงไหนล่ะครับ เพราะฉะนั้นอย่าลืมหาความรู้ เพิ่มเติมประสบการณ์ไม่ว่าจะในสายงานของตัวเอง รวมถึงสายงานรอบข้าง และอย่าลืมที่จะสร้าง Connection
ทำดีกับทุกคน เพราะโลกนี้มันกลม ไม่มีใครรู้หรอกครับว่าพรุ่งนี้เราอาจจะต้องการความช่วยเหลือจากใคร
6.ไม่เตรียมพร้อมสำหรับวันที่จะพ้นสภาพความเป็นมนุษย์เงินเดือน
เพราะอนาคตเป็นเรื่องที่ไม่แน่นอน มีตัวอย่างการถูกเลิกจ้างงานโดยไม่มีการแจ้งล่วงหน้าให้เห็นกันมากขึ้นแม้แต่ในประเทศไทยเองก็ตามดังนั้นการพึ่งพารายได้จากเงินเดือน
เพียงอย่างเดียวนับเป็นความ เ สี่ ย ง อย่างหนึ่ง ในช่วงของการทำงานประจำ เราอาจมองหางานอดิเรกที่สามารถก่อให้เกิดรายได้เสริมรวมถึงอย่าลืมที่จะแบ่งเวลาไปหาความรู้ด้าน
การจัดการเงิน อย่างน้อยเรื่องของการลดหย่อนภาษี หรือการนำเงินออมไป ล ง ทุ น ต่อยอด ด้วยผลิตภัณฑ์ทางการเงิน หรือการ ล ง ทุ น
ในอสังหาริมทรัพย์
ขอบคุณที่มา : k r u n g s r i