
1 คนรวยชอบ อ่ า น หนังสือ
สิ่งที่จะดึงดูดเวลา ให้คุณไม่มีเวลาไป อ่ า น หนังสือก็คือ การรับชมภาพยนตร์ ทีวีซีรี่ย์ ที่หากเผลอดูไปแล้ว บอกได้คำเดียวว่า
“ย า ว ว ว ว” ซึ่งนั่นมันจะดูดเวลาในชีวิตคุณ
ให้หายไปจนทำให้ไม่มีเวลาไปทำในสิ่งอื่น ๆ ที่สำคัญกว่า อย่างเช่น การหาความรู้เพิ่มเติมในสายอาชีพของคุณ หรือเรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ ที่จะนำพาชีวิตของคุณไปสู่
เส้นทางที่ดีขึ้นคำถามสำคัญก็คือ มีหนังสือกี่เล่มที่คุณ อ่ า น ไปแล้วในปีนี้?
2 รายได้ของคนรวย มาจากผลลัพธ์ที่สร้างขึ้น
ในระบบการศึกษา เราถูกสั่งสอนมาให้เรียนจบสูง ๆ แล้วหางานดี ๆ ทำ เพื่อที่จะได้เงินเดือนสูง ๆ แต่หากใครที่เข้าสู่การทำงานประจำมาแล้วจะพบว่า ในหลาย ๆ ครั้ง
แม้ว่าเราจะทุ่มเท ขยัน เหน็ดเหนื่อย ห ลั่ ง เ ลื อ ด มากแค่ไหนก็ตาม คุณก็ยังคงได้เงินเดือนเท่าเดิมอยู่ดีแต่ในขณะที่คนรวยนั้น ได้ค่าตอบแทนตามผลลัพธ์ที่พวกเขา
สร้างผลกระทบขึ้นต่อผู้อื่น ยิ่งส่งผลกระทบในด้านบวกแก่ผู้คนได้มากเท่าไหร่ พวกเขาก็จะได้รายรับมากเท่านั้นซึ่งในฐานะที่คุณเป็นพนักงานออฟฟิศก็สามารถทำได้
ไม่จำกัดที่การเป็นผู้ประกอบการเพียงอย่างเดียวเช่น ในตำแหน่งนักขาย ที่มีทั้งเงินเดือนและค่าคอมมิชชั่น ซึ่งนักขายโดยปกติแล้วจะได้เงินเดือนน้อยมาก เพื่อเป็นกลไก
ผลักดันให้นักขายนั้น ต้องขายของให้ได้เยอะที่สุด และค่าคอมมิชชั่นหรือส่วนแบ่งที่ได้จากการขายนั้น จะมีมูลค่าที่สูงกว่าปกติ เป็นเป็นแรงจูงใจให้นักขายมุมานะ
ในการทำยอดขายให้ได้สูง ๆในส่วนของผู้ประกอบการนั้น หลายคนหลงผิด คิดว่า สินค้าหรือบริการที่ตนเอง สร้างขึ้นมานั้น จะนำพาให้รวยขึ้นมาได้ แต่เมื่อป้อนผลิตภัณฑ์
เข้าสู่ตลาด กลับพบว่าไม่มีใคร ซื้ อ เลยหรือ ซื้ อ น้อยมากแล้วก็จะมานั่งบ่นมา ของเราดีขนาดนี้ ทำไม่คนไม่ ซื้ อ เป็นเพราะผู้คนแต่ละคนโดยธรรมชาตินั้น พวกเขาสนใจ
แต่ตัวเองเท่านั้น เขาไม่สนหรอกว่า คุณจะผลิตสินค้าได้ดีแค่ไหน พวกเขาแค่สนใจว่าสินค้าหรือบริการนั้น สามารถช่วยให้คุณภาพชีวิตของพวกเขาดีขึ้นได้ยังไงหรือ
ช่วยแก้ปัญหาของพวกเขาได้ยังไงต่างหาก ดังนั้น ยิ่งคุณสามารถช่วยแก้ไขปัญหาให้ผู้คนได้มากเท่าไหร่ รายได้คุณก็จะมากขึ้นตามไปด้วย
3 เมื่อล้มเหลว คนรวยจะไม่กล่าวโทษคนอื่น พวกเขาจะรับความล้มเหลวนั้นเอาไว้เอง
คุณคงเคยได้ยิน เรื่องทำนองที่ว่า เมื่อเกิดเรื่องอะไร แ ย่ ๆ คนเรานั้น สามารถโทษทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกใบนี้ได้หมด ไม่ว่าจะเป็น โทษเพื่อน โทษพ่อแม่พี่น้องโทษเพื่อนร่วมงาน
โทษหัวหน้า โทษหมาแมว โทษฝนฟ้าอากาศ แม้แต่โทษในเรื่องนอกโลกอย่างดวงดาว โชคชะตา ก็ยังโทษได้แต่สิ่งเดียวที่จะไม่โทษก็คือ “ตัวเอง”นั่นทำให้ เมื่อ
เกิดเรื่อง ร้ า ย ๆ ขึ้นมา หากเราไม่เห็นว่าตัวเองผิด เราก็จะไม่ทำการพัฒนาตนเองให้มันดี เพราะคิดว่าตนเองดีอยู่แล้ว แต่คนอื่นต่างหากที่ไม่ดีดังนั้น สิ่งที่คนรวยทำก็
คือพวกเขานั่งคิด วิเคราะห์ แยกแยะว่า เพราะอะไร ทำไมจึงเกิดเรื่องผิดพลาด ล้มเหลวขึ้นมาได้ แล้วจะพัฒนาตนเองให้ดีขึ้นได้อย่างไร ต้องทำอะไรบ้าง เพื่อไม่ให้
เกิดเหตุการณ์ ร้ า ย ๆ ซ้ำขึ้นอีก
4 คนรวยโฟกัสที่ การ ล ง ทุ น ไม่ใช่การออมเงิน
คุณคงเคยได้ยิน เรื่องราวที่ว่า หากไม่กินกาแฟสตาร์บัคเลยตลอดชีวิต คุณอาจจะมีเงินเก็บเป็นล้าน ซึ่งคุณอาจจะแก่เกินไปจนไม่มีโอกาสได้ใช้เงินก้อนนี้ หรือเงินก้อนนี้
ในอนาคตนั้น โดนเงินเฟ้อเล่นงานซะจนมูลค่าลดฮวบจริงอยู่ว่า การออมเงินเป็นเรื่องที่ดีแต่หากตอนนี้คุณยังไม่รวย นั่นแสดงว่า คุณไม่ได้มีปัญหาในการออมเงิน
แต่คุณกำลังมีปัญหาในการหาเงินต่างหาก เพราะถ้าคุณยังมีรายได้น้อย ๆ อยู่ต่อให้คุณออมเงินเดือนละ 99% มันก็ไม่ทำให้คุณรวยขึ้นมาได้ดังนั้น หากยังไม่รวย
จงโฟกัสไปที่การสร้างรายได้ก่อนแล้วจากนั้น ให้ศึกษาเรื่องการออมเงินและการใช้เงิน แล้วหลังจากนั้น จงนำเงินไป ล ง ทุ น เพื่อให้มันงอกเงยขึ้น
5 คนรวย เป็นคนที่เรียนรู้และพัฒนาตนเองอยู่ตลอดเวลา
คุณคงเคยได้ยิน คำกล่าวที่ว่า ใครก็ตามที่ทำตัวเป็นน้ำเต็มแก้ว พวกเขาจะไม่สามารถพัฒนาหรือเติบโตได้อีกต่อไปแล้ว เพราะพวกเขาคิดว่า ตนเองนั้น รู้ไปหมดทุกสิ่งทุกอย่าง
แล้วบนโลกใบนี้ ในโลกนี้ฉันเก่งที่สุด เจ๋งที่สุด ไม่จำเป็นต้องเรียนรู้อะไรเพิ่มเติมอีกแล้วแต่ในขณะที่คนรวยนั้น ทำตัวเองให้เป็นนำครึ่งแก้ว เพื่อรองรับความรู้ใหม่ๆ อยู่เสมอ
พวกเขาเก่งในเรื่องของการถามและการฟัง เพราะเมื่อเริ่มต้นด้วยคำถามที่ดี คุณจะได้คำตอบที่ดีเสมอและการรับฟังความคิดเห็นผู้อื่นนั้น เป็นสิ่งที่สำคัญกว่าการที่เก่ง
แต่พูดแล้วไม่ฟังใครเลยในโลกนี้เหนือฟ้าย่อมมีฟ้า คนรุ่นใหม่ ๆ ย่อมเก่งกว่าคนรุ่นเก่า ๆ อยู่เสมอ อย่าได้ดูแคลนพวกเขา แต่จงเรียนรู้จากพวกเขา แล้วนำเอามาปรับใช้
กับชีวิตเราให้เกิดประโยชน์มากที่สุด
6 คนรวยคิดว่าการเกิดมาจน นั้นไม่ผิด แต่ผิดแน่ ๆ หากคุณ ต า ย ทั้ง ๆ ที่ยังจนอยู่
คนที่ยังไม่รวย หลายคนมีทัศนคติที่ไม่ค่อยดีกับเงินสักเท่าไหร่นัก เช่น คนรวยเป็นคนเห็นแก่ตัว คนรวยเป็นคน เ ล ว คนรวยเป็นคนแล้งน้ำใจ เงินทำให้คนดี ๆ กลายเป็น
คน ชั่ ว ร้ า ย เงินเป็นสิ่งที่หากใครมีแล้วจะกลายเป็นคนไม่ดี ซึ่งการคิดแบบนี้ไม่ช่วยให้คุณรวยขึ้นมาได้เลยเพราะเปรียบง่าย ๆ ว่า หากคุณบ่นไม่ชอบหมาแมว แน่นอนว่า
คุณก็จะไม่เลี้ยงพวกมัน หรือพวกมันก็จะไม่เข้าใกล้คุณ เช่นกัน หากคุณ เ ก ลี ย ด เงินหรือมีทัศคติที่ไม่ดีกับเงิน พวกมันก็จะไม่เข้าใกล้คุณเช่นกัน จริง ๆ แล้ว เงินนั้น
เปรียบเสมือนเครื่องมือชิ้นหนึ่งที่จะช่วยให้คน ๆ นั้น สามารถทำอะไรต่อมิอะไรได้ในวงกว้างมากยิ่งขึ้น ซึ่งหากเงินมันไปอยู่ในมือของคนไม่ดี คนนั้น ๆก็จะทำสิ่ง ชั่ ว ร้ า ย
ที่มีผลกระทบ ต่อผู้คนอย่างมากมาย แต่ในขณะที่หากเงินนั้น ไปอยู่มือของคนดี พวกเขาก็จะสร้างสิ่งดี ๆ ให้กับโลกนี้ได้อย่างมากมายมหาศาล เช่นกันดังนั้น คุณจะ
สังเกตเห็นได้ว่า เงินเปรียบเสมือนเป็นเครื่อง ข ย า ย เสียงต่างหาก ส่วนจะดีจะ ชั่ ว นั้น มันอยู่ที่ตัวบุคคล หากคุณสังเกตจากมหาเศรษฐี ที่ร่ำรวยอันดับต้น ๆ ของโลกอย่าง
Bill Gates และ Warrent Buffet นั้นเป็นคนที่ใจบุญเป็นอย่างมากพวกเขาร่วมใจกัน บ ริ จ า ค เงินของตัวเองกว่า 80%-90% ให้แก่องค์กรการกุศล ที่สามารถช่วยเหลือ
ผู้คนบนโลกใบนี้ได้นับล้าน ๆ ชีวิตเพราะหากคุณไม่รวย คุณจะสามารถช่วยเหลือคนอื่นได้เพียงหยิบมือ แต่ในขณะที่หากคุณเป็นคนรวยนั้น คุณจะสามารถช่วยเหลือผู้คน
ได้อีกมากมายเลยทีเดียว
7 คนรวยเชื่อว่า ฉันเป็นคนลิขิต ชีวิตของตนเอง
คุณอาจจะเคยเห็น คนรวย ซื้ อ ล็อตเตอรี่บ้างเป็นบางครั้งบางคราว และบางทีก็เห็น ซื้ อ เป็นปึ๊ก ๆ นับสิบใบ ซึ่งพวกเขา ซื้ อ เพื่อความสนุก และความบันเทิงเท่านั้น
เพราะหากไม่ถูกรางวัลก็ไม่ได้มีผลกระทบกับคุณภาพชีวิต ณ ตอนนี้แต่นั่นมันต่างกันลิบลับกับคนทั่วไปที่ ซื้ อ ล็อตเตอรี่เพื่อที่จะหวังว่า ตรูต้องรวยแน่ ๆ หากถูกรางวัลที่ 1
ฉันจะ ซื้ อ บ้าน ซื้ อ รถ ไปเที่ยวต่างประเทศ ซึ่งเอาเข้าจริง การที่ใครสักคนหนึ่งจะถูกรางวัลที่ 1 นั้น มีโอกาสที่จะถูกน้อยมาก ๆ ซึ่งมีโอกาสเพียง 0.0001% เท่านั้น
ซึ่งหากคุณต้องการที่จะถูกรางวัลที่ 1 แบบ 100% นั่นก็คือ คุณจะต้อง ซื้ อ ล็อตเตอรี่จำนวน 1 ล้านใบ! หรือคิดเป็นเงิน 80 ล้าน ซึ่งคุณมีโอกาสที่จะได้รางวัลที่ 1 มูลค่า 6 ล้านบาท
อย่างแน่นอนแต่ในขณะที่คนรวยนั้น พวกเขาเชื่อว่า การที่พวกเขาจะมีบ้าน มีรถ ไปท่องเที่ยวต่างประเทศ
มีเงินเก็บเป็นล้านได้นั้น พวกเขาจะต้องสร้างให้มันเป็นจริงขึ้นมาให้ได้ด้วยลำแข้งของตนเอง ให้ถึงที่สุดและข่าวดีก็คือ มหาเศรษฐีบนโลกใบนี้กว่าร้อยละ 80 เป็นคนที่
สร้างฐานะขึ้นมาได้ด้วยตนเองโดยไม่ได้รวยมาจากมรดก ตกทอดด้วยซ้ำ ดังนั้น จงเชื่อเถอะว่า คนธรรมดา ๆ อย่างเรา ๆ ก็สามารถเป็นคนรวยได้เช่นกัน
ขอขอบคุณ b l u e o c l o c k