
เคยเป็นกันมั้ย ทำงานมาตั้งนาน แต่ไม่มีเงินเก็บเลย นั่นอาจจะเพราะว่าค่าใช้จ่าย ในแต่ละเดือนของเรานั้นสูงมาก จนทำให้รายได้ของเรานั้นเกือบจะไม่พอใช้นั่นเอง
ซึ่งหากใครอยากจะมีเงินเก็บมากขึ้น ก็อาจจะต้องหารายได้เสริมเข้ามา แต่ก็ใช่ว่าจะหารายได้เสริมได้ง่ายๆ นะ ดังนั้น เราจึงควรเริ่มต้นด้วยการลดค่าใช้จ่ายต่างๆ ของเราในแต่ละเดือนลง
เพื่อที่เราจะได้มีเงินเก็บมากขึ้น ซึ่งวันนี้เราก็มี 8 ค่าใช้จ่ายที่ควรควบคุมมาฝากกัน มีอะไรบ้างนั้นมาดูกันเลย
1. ค่าน้ำ ค่าไฟ
ค่าใช้จ่ายประจำอีกอย่างที่หลายๆ คน มักพลาด เพราะใช้อย่างไม่ระวัง เช่น เปิดไฟทิ้งไว้ เปิดน้ำทิ้งไว เปิดทีวีให้ดูเราตอนหลับและอื่นๆ อีกมากมาย
หากคุณมีพฤติกรรมเหล่านี้ก็เลิกนะ เพราะนอกจากจะทำให้ค่าใช้จ่ายเราเพิ่มขึ้นแบบไม่มีสาเหตุแล้ว ยังสิ้นเปลืองพลังงานอีกด้วย
2. กาแฟ แบรนด์ดัง
การที่เรานั้นชื่นชอบ การดื่มกาแฟแบรนด์ ดัง ล้วนแต่ไม่ผิด ทั้งนั้น หากแต่เพียงอยากจะขอแนะนำให้ซื้อทาน แต่พอดีกับฐานะของเรามีมากก็ดื่มบ่อยหน่อย
มีน้อยก็นานๆ ดื่มทีก็ได้ ไม่ใช่มีน้อยก็ดื่มบ่อยแบบนี้เงินเราคงจะไหลออก จากกระเป๋ารัวๆ ตามรอบการดื่มอย่างแน่นอนหรืออาจจะมองหาตัวเลือกอื่นๆ ดูก็ได้
เพราะกาแฟอร่อยๆ ไม่ได้มีแต่ แบรนด์ดัง อย่างเดียวนะ กาแฟบ้าน ๆ ราคาถูกแต่รสชาติดีก็มีอยู่เยอะ
3. ค่าใช้จ่ายในการออกไปทานอาหารข้างนอก
เพราะการที่เราออกไป กินอาหารข้างนอกบ้านนั้น โดยเฉพาะในห้างเรามักจะไม่ได้เสี ยแค่ อาหาร ที่เรากินไปเพียงเท่ายั้น แต่เรายังต้องเสีย ค่าบริการให้ร้านอีกด้วย ซึ่งก็ไม่ใช่น้อยๆ เลยทีเดียว
และยิ่งหากเราทานอาหาร นอกบ้านบ่อยๆ ก็ลองคำนวณดูว่ารวมๆ แล้วเเราต้องเสียค่าบริการไปเท่าไหร่ เราจึงควรลดการทาน อาหาร นอกบ้านลงซึ่งหากเราทำได้ เราก็จะมีเงินเหลือเก็บมากขึ้น
4. ค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยว
ไม่ว่าจะเที่ยวในไทยหรือไปต่างประเทศก็ได้ ทั้งนั้น แต่จะขอแนะนำให้ดูจังหวะการไปให้ดี เพราะหากว่าเราไปในช่วงไฮซีซั่นก็จะเป็นช่วงที่ราคาห้องพักสิ่งของ แหล่งท่องเที่ยวและบริการต่างๆ
จะมีราคาสูงหากเลี่ยงได้ก็ขอแนะนำให้เที่ยว ในช่วงโลว์ซีซั่นจะดีกว่า เพราะนอกจากราคาของสิ่งต่างๆ จะไม่สูงขึ้นแล้ว บางทีอาจจะมีโปรโมชั่นเรียกลูกค้าเด็ดๆ แถมมาอีกก็ได้
5. แพ็กเกจอินเตอร์เน็ตและโทรศัพท์มือถือ
ค่าใช้จ่ายที่ถือได้ว่าเป็นค่าใช้จ่ายสำคัญของคนในยุคนี้เลยทีเดียว เป็นการสื่อสาร หลักในปัจจุบันเลยก็ว่าได้ แต่ถึงอย่างไรก็อยากให้ลองคิดดูให้ดีๆ ว่าแพ็คเกจที่เราใช้อยู่นั้นคุ้มค่ากับเราหรือไม่
ซึ่งเราสามารถใช้ประโยชน์ได้สูงสุด ตามราคาที่เราจ่ายไหม หากว่าไม่แนะนำให้เปลี่ยนไปใช้แพ็คเกจอื่นที่ตรงกับการใช้งานของเราให้มากที่สุด
6. ค่าบัตรเครดิต
อีกความสะดวกสบาย ที่มาพร้อมกับค่าใช้จ่ายที่เราอาจลืม อย่างเช่นค่าดอกเบี้ยบัตร ค่าปรับจากการจ่ายช้า เป็นต้น ทุกการใช้จ่ายผ่านบัตรมักจะตามมาด้วยดอกเบี้ยเสมอ
และดอกเบี้ยก็ไม่ใช่น้อยๆ เลยทีเดียว ดังนั้น เราจึงควรมีการวางแผนควบคุม และมีวินัยในการใช้งานเป็นอย่างมากจะรูดซื้อหรือรูดจ่ายอะไร ก็คิดให้ดีๆก่อนว่าสิ่งนั้นมีความจำเป็นไหม
7. ค่าใช้บริการฟิตเนส
อีกหนึ่งค่าใช้จ่ายร้อนแรง ของยุคนี้ ที่ใครๆ ก็อยากสวย อยากหล่อกันต่างก็หันมาใส่ใจดูแลสุ ขภ าพกันมากขึ้น ออกกำลังกายกันเป็นประจำแต่ก็นั่นแหล่ะ
แทนที่จะออกกำลังกายแล้วสบายกระเป๋า แต่ดันมามีค่าใช้จ่าย ในการใช้ฟิตเนส แถมด้วยค่าจ้างเทรนเนอร์มาคอย สอนเพิ่มอีกซึ่งหากว่าเราลดค่าใช้จ่ายในส่วนนี้
ด้วยการออกกำลังกายเองที่บ้าน หรือเครื่องออกกำลังกายตามศูนย์ราชการที่จัดไว้บริการได้ก็จะดีมาก
8. ลงทุนเพื่ออนาคต
ยุคนี้การมองหาช่องทางเสริม รายได้ เป็นสิ่งที่นิยมการอย่างมากไม่ว่าจะเป็นลงทุนซื้อหุ้น ซื้อสลากออมสิน เป็นต้น
ซึ่งเรานั้นก็สามารถทำได้หากแต่เราควรจะศึกษาให้ดีก่อน และมีการคำนวณต้นทุน และความ เ สี่ ย ง ที่เรารับได้
ก่อนการลงทุนเสมอ เพื่อที่ว่าลงทุนเพื่ออนาคตจะไม่กลายเป็นหนี้ เพื่ออนาคตของเรานั่นเอง
ขอขอบคุณ w a y o f l i f e