
“จิตเป็นนาย กายเป็นบ่าว” ประโยคนี้อธิบายได้ดี ว่าจิตมี พ ลั ง มากแค่ไหนกับชีวิตของคนเรา บางคน ร่ า ง ก า ย แข็งแรงดี แต่กลับไม่ร่าเริงแจ่มใสกระวนกระวายตลอดเวลา
บางคนไม่สบายแต่ยังยิ้มได้มีอายุยืนนานอย่างไม่น่าเชื่อ นั่นก็แปลว่า สุ ข ภ า พ จิตสำคัญกว่า สุ ข ภ า พ กายเสมอสุขและทุกข์ก็เป็นเรื่องธรรมดาของโลกที่มักจะสลับ
กันไปมาอยู่เรื่อยไม่มีใครในโลกนี้ไม่เป็นทุกข์ และไม่มีใครที่จะมีความสุขได้ตลอดไปโดยไม่ทุกข์ ขึ้นอยู่กับว่าแต่ละคนมีทัศนคติในการใช้ชีวิตแบบไหน และจัดการ
กับทุกข์ได้เข้าที่เข้าทางอย่างไรบ้างซึ่งความคิดที่กำหนดจิตให้สุขทุกข์นั้น สำคัญมาก ถ้าเราคิดดี เราก็จะได้ดี มีความสุข แต่ถ้าคิดไม่ดี จิตเราก็จะเป็นทุกข์พาลทำให้
ทุกอย่างรอบตัว เป็นทุกข์ตามไปด้วยถ้าคุณอยากมีความสุข คุณก็ต้องอยู่กับความทุกข์และความเป็นจริงให้เป็น จงทำความเข้าใจว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาที่เกิดขึ้น
แล้วจะผ่านไป แต่อย่าทำ ร้ า ย ตัวเองด้วยทัศนคติ แ ย่ ๆ ต่อไปนี้
1. พูด บั่ น ท อ น กำลังใจตัวเอง สิ่งดี ๆ เริ่มขึ้นได้ที่ตัวเราเองหยุด บั่ น ท อ น กำลังใจดี ๆ ความคิดดี ๆ ด้วยคำพูดว่า “ฉันไม่อาจ/ไม่สามารถ …. ได้” “ฉันดีไม่พอ”
“ฉันไม่มั่นใจว่า …” “ฉันไม่มีสิ่งนั้นเพื่อที่จะ … ได้” “ฉันเป็นคน แ ย่ ” ในทางกลับกันคุณลองคิดสิว่า คุณรู้สึกหรือหากได้ฟังใครสักคน มาพูดแบบนี้ กับคุณอยู่บ่อย ๆ ซ้ำ ๆ …
แม้แต่คนฟังยังรู้สึก ห ด หู่ ไม่อยากเข้าใกล้ สัมผัสได้ถึง พ ลั ง ลบ นับประสาอะไรกับคนพูดที่เป็นเจ้าของคำพูดโดยตรงจะไม่โดน
พ ลั ง ลบไปเต็ม ๆ ล่ะ
2. ทึกทัก เอาไปในทางที่ลบ การ ห ว า ด ร ะ แ ว ง คือสิ่งหนึ่งที่ทำให้สถานการณ์ เ ล ว ร้ า ย ยิ่งขึ้นกว่าเดิมเหมือนกับน้ำมันราดกองไฟใน ย า ม ปกติสุขดี ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ถ้าคิดในทาง แ ย่ ทุกอย่างมันก็ดูอึดอัดไปหมด และยิ่งในสถานการณ์คับขัน ถ้ายิ่งประกอบกับความไม่ได้สติไปด้วย ทุกอย่างก็แตกกระเจิงกว่าเดิมทันทีจงมีสติเข้าไว้
แล้วเราจะควบคุมเหตุการณ์ทุกอย่างให้ได้ดั่งใจได้เอง
3. เปรียบเทียบกับคนอื่นไปในแง่ ร้ า ย การแข่งขันเราจะชนะหรือแพ้ คนที่เข้ามาหาเราจะทำให้เราตัวเล็กลง หรือเสมอกัน ก็ขึ้นกับว่าเรามองพวกเขาในแบบไหนแล้ว
หันมามองตัวเราในแบบไหน อย่ามองคนอื่นด้วยความ อิ จ ฉ า ริ ษ ย า อย่ากดตัวเองให้ดูด้อยกว่าคนอื่น ทุกคนมีความเท่าเทียมกันและมีความดีเด่นแตกต่างกัน
4. ใคร่ครวญหาอดีตอย่างเศร้าโศก และโกรธแค้น ควรตัดใจจากอดีตถ้าอยากมีความสุขอยู่กับปัจจุบัน อย่า เ คี ย ด แ ค้ น กับสิ่งที่คนอื่นทำกับเราไว้อย่าเสียใจกับสิ่ง
ที่เอากลับคืนมาไม่ได้ ความสุขเรา เราสร้างได้ใหม่ในทุกนาทีของเข็มนาฬิกาที่เดินไปเรื่อย ๆ
5. ไม่เป็นตัวของตัวเองเพราะยอมให้คนอื่นชักจูงง่าย เราจำเป็นต้องดิ้นรนเพื่อความอยู่รอดของชีวิต แต่ไม่จำเป็นต้องให้คนอื่นเข้ามามีส่วนร่วมโดยเฉพาะอะไรก็ตาม
ที่จะทำให้รู้สึก แ ย่ กว่าเดิม จงรู้สึกนิ่งและมั่นคงเข้าไว้ ชีวิตเราเป็นของเรา อย่าเอาไปผูกติดกับใครหรือให้ใครมีอิทธิพลได้โดยง่าย
6. ขี้บ่น จุกจิก เจ้ากี้เจ้าการ ความขุ่นข้อง ห ม อ ง ใ จ เป็น ม ล พิ ษ ทางอารมณ์ก็จริง แต่ไม่ควรระบายออกด้วยการบ่นหยุมหยิมและไม่ควรอย่างยิ่งที่จะกระฟัดกระเฟียด
ให้กับคนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ด้วย มันควรถูกกำจัดออกไปด้วย พ ลั ง ด้านบวกลองเปลี่ยนจากบ่นเป็นยิ้ม และหัวเราะดูสิ มันเห็นความแตกต่างได้ชัดเจนจริง ๆ นะ
7. ดิ้นรนหาหนทางที่จะลบล้างความผิดของตัวเอง ความผิดในอดีตมักจะให้บทเรียนที่ดี กับชีวิตปัจจุบัน อย่าทำทุกอย่างในปัจจุบันเพื่อลบปมหรือความผิดพลาด
ในอดีตเพราะเพียงแค่ เวลาก็ต่างกันลิบลับแล้ว มีหรือที่มันจะลบหรือทดแทนกันได้ง่าย มีความสุขกับปัจจุบันที่จับต้องง่ายและควบคุมได้ง่ายยังจะดีกว่า
8. กลัวความล้มเหลวและกลัวว่าจะทำผิด ความกลัวคือสิ่งหนึ่งที่ขัดขวางความก้าวหน้า และเป็นกำแพงกันไม่ให้สิ่งดี ๆ เข้ามาหา และมันเป็นเรื่องธรรมดาโลกที่คนเรา
ไม่มีใครสมบูรณ์แบบเต็มร้อยถ้าเรามัวแต่กลัวก็เท่ากับว่าเราสร้างข้อจำกัด ให้ชีวิตไม่กล้าเปิดหูเปิดตา หากเราไม่ขยับออกไป เราจะเข้าถึงความสุขได้อย่างไรกัน ?
รู้ทันทุกข์ในแบบที่เป็นเรื่องธรรมดาของโลกรู้จักหาทางออกอย่างมีสติ
เพียงเท่านี้คุณก็จะมีชีวิตที่มีความสุขได้ ที่สำคัญไปกว่านั้น อย่าลืมสร้าง พ ลั ง บวกให้ตัวเองอยู่เสมอ เพื่อสร้าง สุ ข ภ า พ จิตที่ดีไปเสริม สุ ข ภ า พ กายที่ดีอีกขั้นหนึ่ง
ให้ชีวิตมีความสงบสุขยิ่งขึ้น
ขอขอบคุณ j e e b . m e