Home ข้อคิด 8 วิธีคิดแบบคนรวย ที่หลายๆคนอาจยังไม่รู้

8 วิธีคิดแบบคนรวย ที่หลายๆคนอาจยังไม่รู้

1 second read
0
0

การคิดแบบคนอื่นทั่วๆ ไป อาจทำให้เรามีเงินเก็บมากขึ้นแต่ยังห่างไกลคำว่ารวยอยู่มากโข วิธีคิดของคนรวย ที่จะมาแนะนำนี้ เป็นวิธีคิดที่ล้ำ แปลก แหวกแนว แต่ทำให้

เรารวยขึ้น ถ้านำไปปรับใช้ได้ถูกวิธี

1.ใครๆ ก็เป็นคนรวยได้

คนรวยคิดว่าใครก็เป็นคนรวยได้ทั้งนั้น ไม่จำเป็นต้องมีพรสวรรค์หรือเรียนสูงก็ทำได้ ถ้าอยากเป็นคนรวย ต้องเปลี่ยนมโนภาพทางการเงินให้เป็นบวก คิดเสียว่าเราเป็นคนที่รวยแล้ว

ถ้าอยากรวยแต่ยังพูดถึงเรื่องความต่างทางฐานะ เ ส พ ติ ด เรื่องความจนหรือความเป็นผู้ด้อยกว่า ความสำเร็จก็จะอยู่ไกลเกินเอื้อมอย่างแน่นอนเริ่มต้นแบบเบาๆ ด้วยการ

จินตนาการภาพอนาคตที่มีความสุข คิดภาพตัวเองสวมใส่เสื้อผ้าดีๆ ภาพตัวเองกำลังนั่งอยู่บนรถยนต์ราคาแพง อาศัยอยู่ในบ้านหลังโต มีสระว่ายน้ำ ลองวาดภาพชีวิต

ในอนาคตว่าเราคือคนรวย แล้วสิ่งแวดล้อมที่ห้อมล้อมเราอยู่จะเปลี่ยนไป

2.ไม่เก็บเงินอย่างเดียว

คนรวยจะคิดว่าการใช้เงินสำคัญพอๆ กับการเก็บเงิน ถ้าเอาแต่เก็บอย่างเดียวอาจเกิดผลข้างเคียงได้เพราะการไหลของเงินถูกปิดกั้น ไม่ว่าจะเป็นตอนใช้เงิน เก็บเงินหรือ

ล ง ทุ น เขาจะคิดถึงคุณค่าในอนาคตของมันเสมอ บางครั้งเราอาจเห็นคนที่ใช้เงิน ซื้ อ ของแพงๆ มาใช้ เป็นเพราะพวกเขามั่นใจใน ร ะ ย ะ ย า ว แล้วว่า เขาจะได้รับคุณค่า

มากกว่านั้นดังนั้นอย่ามัวแต่ค่อนแคะว่าทำไมถึง ซื้ อ คอมพิวเตอร์แพงๆ เป็นแสนมาใช้ โดยไม่รู้ว่าเขาสามารถใช้มันหาเงินได้มากเท่าไหร่จากของสิ่งนั้น จงคิดว่า

เราจะใช้เงินอย่างไรถึงจะได้ผลตอบลัพธ์ ร ะ ย ะ ย า ว ที่คุ้มค่าคืนมามากกว่า

3.ดูแลกระเป๋าเงินให้ดี

สำหรับคนรวย กระเป๋าเงินคือที่พักของเงิน จึงต้องดูแลให้ความสำคัญเท่าๆ กับเงิน เมื่อพวกเขาเห็นกระเป๋าเงินที่เต็มไปด้วยใบเสร็จรับเงินหรือธนบัตรที่ไม่จัดเรียงให้เรียบร้อย

เขาจะรู้สึกหงุดหงิด เหมือนกับคนเจ้าระเบียบที่เห็นของต่างๆ ในบ้านไม่เรียบร้อยนั่นเองอย่าแปลกใจที่เห็นพวกเขา ล ง ทุ น ซื้ อ กระเป๋าเงินแพงๆ มาใช้ เพราะสิ่งเหล่านั้นคงทน

และเป็นที่เก็บรักษาเงินชั้นดีนั่นเอง

4.ไม่กดเงินบ่อย

การกำหนดช่วงเวลาและจำนวนเงินอย่างคงที่ในการกดเงินจากตู้เอทีเอ็มเป็นหนึ่งในนิสัยการจัดการเงินของคนรวนที่ทำให้รู้ตั้งแต่รายได้ของเดือนหนึ่งเข้ามาจนถึง

วันที่รับรายได้ของเดือนถัดไป ว่าเรากดเงินจากบัญชีไปบ่อยมากแค่ไหนพวกเขาจะกดเงินเดือนละครั้งสองครั้งพอเพื่อควบคุมการใช้จ่ายของตัวเอง การกดเงินยิบย่อย

ครั้งละ 500 ไม่เคยอยู่ในหัวเพราะเขาคิดว่าการกดเงินทีละน้อยจะทำให้ไม่รู้ตัวว่ากดเงินใช้ไปแล้วกี่บาท และควบคุมยากขึ้นด้วยลองเปรียบเทียบดูสักเดือนหนึ่ง กดเงิน

ใช้ทีละน้อยแต่ถี่กับกดเงินทีละมากๆ แต่น้อยครั้ง แบบไหนจะทำให้เราควบคุมเงินได้บัญชีได้ดีกว่ากัน

5.ล ง ทุ น กับ สุ ข ภ า พ

เรื่อง สุ ข ภ า พ สำหรับคนรวยนั้นเป็นเรื่องใหญ่พอๆ กับการหาเงิน พวกเขาจะเจียดเวลามาออกกำลังกายเสมอแม้งานจะยุ่งเพียงใด เพราะเขารู้โดยสัญชาติญาณว่า

สุ ข ภ า พ คือทรัพย์สินที่ต้องรักษาไว้ และอย่างที่รู้กันว่า สุ ข ภ า พ ถ้าเสียไปเอากลับมาไม่ได้อย่างแน่นอนการออกกำลังกายวันละ 15-30 นาทีก็เพียงพอแล้วหากทำทุกวัน

การเต้นแอโรบิกช่วยให้ภูมิคุ้นกันดีขึ้นและลดการ เ กิ ด โ ร ค ตลอดจนเพิ่มความสามารถในการจดจำด้วย ทำให้ เ ลื อ ด ไปเลี้ยง ส ม อ ง ดีขึ้น และเป็นสภาวะที่ช่วย ก ร ะ ตุ้ น

การทำงานของ ส ม อ ง นี่คือสิ่งที่ช่วยดูแล ส ม อ ง ให้ สุ ข ภ า พ ดี พร้อมลุยงานต่างๆ มากขึ้น

6.จัดบ้านให้เป็นระเบียบ

บ้านของคนรวยมีของน้อย ถูกจัดวางไว้อย่างเป็นระเบียบและสะอาด การมีข้าวของวางอย่างไม่เป็นระเบียบและรกจะทำให้ พ ลั ง ของเงินเข้ามาไม่ได้ ถัดมาเป็นเรื่องห้องน้ำ

ห้องน้ำเป็นสถานที่ที่แสดงให้เห็นลักษณะเฉพาะของบ้านนั้นๆ ลองสังเกตบ้านที่เก็บเงินได้ จะเห็นว่าห้องน้ำถูกรักษาให้สะอาดอยู่เสมอ เพราะห้องน้ำคือสถานที่ที่ พ ลั ง

ความมั่งคั่งสามารถไหลออกไปได้โดยง่ายสไตล์การใช้ชีวิตของคนเก็บเงินเก่งเรียกสั้นๆ ว่า มินิมัลลิสต์ ข้าวของที่อยู่รอบตัวล้วนเป็นสิ่งที่จำเป็น ไม่ใช่ของที่อยากได้

พวกเขารู้ว่าวัตถุอะไรอยู่ตรงไหน จึงรู้ด้วยว่ามีอะไรเหลืออยู่ และไม่ไป ซื้ อ สิ่งที่ไม่จำเป็นมา

7.ตั้งเป้าหมายที่เป็นไปได้

คนรวยจะกำหนดเป้าหมายที่เป็นไปได้และสัมผัสประสบการณ์ความสำเร็จไปทีละขั้นแล้วค่อยๆ ก้าวขึ้นไป เช่น คนทั่วไปอาจตั้งเป้าหมายจะหาเงินล้านให้ได้ในห้าปี

แต่คนรวยจะตั้งเป้าให้สั้นกว่านั้น เช่น จะต้องมีเงินแสนในสามเดือน การดีใจ 1 ครั้งกับดีใจ 10 ครั้งนั้นต่างกันมาก ยิ่งมีสิ่งให้ดีใจเยอะเท่าไหร่ ก็จะมีแรงขับเคลื่อนมากขึ้นเท่านั้น

8.จ่ายเงิน ซื้ อ เวลา

คนรวยคิดว่าเวลาคือเงิน ประหยัด 1 ชั่ ว โ ม ง ไว้พัฒนาความสามารถของตัวเอง แบ่งเวลาสัก 10 นาทีไว้เพิ่มมูลค่าตัวเองให้สูง เช่น การใช้เงินจ้างแม่บ้านมาทำความสะอาดบ้าน

ส่วนตัวเองก็นั่งทำงานของตัวเอง และใช้เวลานั้นพัฒนาความสามารถในการทำงานจนสำเร็จการเดินทางก็เช่นกัน พวกเขาจะหาที่อยู่ที่ใกล้บริษัทที่สุดเพื่อไม่ให้เวลาสูญเปล่า

อยู่บนท้องถนน เวลาในการเดินทางสามารถเอามาทำงานให้เสร็จได้ 1 งาน มีเวลาพักผ่อนเพิ่ม 1 ชั่ ว โ ม ง หรือมีเวลาทำ
อ า ห า ร เช้าด้วยตัวเอง หาสิ่งดีๆ ลงท้องก่อนเริ่มงาน

สิ่งที่ควรระวังมากที่สุดคือการใช้เวลาอย่างสิ้นเปลืองไปกับการประชุม ยิ่งประชุมนานเท่าไหร่ ความขัดแย้งก็จะมากขึ้นเท่านั้น นอกจากนั้นยังเป็นการใช้งาน ส ม อ ง อย่างหนัก

หรือบางครั้งอาจทำให้เกิดความเฉื่อยชาไปเลยก็ได้

ขอขอบคุณ amarinbooks

Load More Related Articles
Load More By sabailey99
Load More In ข้อคิด

Check Also

7 ลักษณะเพื่อนแย่ๆ เพื่อนนิสัยแบบนี้..เลิกคบเถอะ

โดยปกติแล้วชีวิตของคนเรา จะต้องเจอผู้คนมากมาย นิสัยก็แตกต่างกันออกไป บางคนก็เข้ามาดี บางคน…