
1. พัฒนาความสนใจของคุณ
คุณควรใช้เวลาไปกับกิจกรรมที่ชอบหรือถนัดมากกว่า เพราะมันจะทำให้คุณรู้สึกดี แถมช่วยให้คุณรู้สึกมีอิสระในการแสดงอารมณ์ และ ก ร ะ ตุ้ น ให้คุณทำงานเพื่อสร้างทักษะ
ของคุณต่อไประมัดระวังและอย่ากดดันตัวเองมากเกินไป หากต้องไล่ตามเป้าหมายมิฉะนั้นคุณอาจหมดกำลังใจ หมดความสนใจในเป้าหมายเหล่านั้นไปซะก่อน!!
2. พัฒนาการกรอบความคิดที่พัฒนาได้ หรือการเติบโตทางความคิด
ความสำเร็จและความล้มเหลวอาจส่งผลต่อความคิดของคุณ ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมการพัฒนากรอบความคิดจึงเป็นเรื่องสำคัญ นี่คือความเชื่อที่ว่าคุณสามารถพัฒนา
ปรับปรุงความคิดของคุณได้ วิธีที่คุณสามารถเสริมสร้างความคิดนี้ได้คือการเอาชนะความท้าทายสิ่งนี้ไม่ง่ายเสมอไป แต่สามารถทำให้ง่ายขึ้นได้หากคุณคาดการณ์
ถึงความท้าทายเหล่านี้เมื่อคุณตั้งเป้าหมาย และคิดหาวิธีที่จะเอาชนะความท้าทายเหล่านี้ล่วงหน้า คุณควรพร้อมที่จะปรับแผนของคุณเมื่อมีสิ่งท้าทายที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น
กุญแจสำคัญในการมีกรอบความคิดที่พัฒนาแล้ว คือการขอความช่วยเหลือเมื่อถึงคราวจำเป็น “จำไว้ว่าคุณไม่สามารถทำทุกอย่างด้วยตัวเองได้” “คุณสามารถตอบแทนน้ำใจของผู้อื่นได้
โดยการให้ความช่วยเหลือพวกเขากลับเมื่อพวกเขาต้องการความช่วยเหลือนั้นเพื่อเป็นการตอบแทน”ความสำเร็จของคุณสามารถช่วยเสริมสร้างกรอบความคิดที่พัฒนาแล้วได้
และแม้แต่ความสำเร็จเล็กๆ น้อยๆ ก็ควรได้รับการยินดี คุณสามารถพูดยินดีกับตัวเองและให้กำลังใจตัวเองได้เสมออย่าลืมให้รางวัลตัวเองเพื่อเป็นกำลังใจด้วยเป็นครั้งเป็นคราว
3. ตั้งเป้าหมายอัน ‘ชาญฉลาด’
การมีเป้าหมายไม่เพียงแต่ทำให้คุณเข้าใจทิศทางชีวิตที่ชัดเจนเท่านั้น แต่ยังให้ความรู้สึกถึงความสำเร็จทุกครั้งที่คุณเข้าใกล้เป้าหมายมากขึ้นอีกด้วยคุณต้องตั้ง
“เป้าหมายที่ชาญฉลาด” ก่อน เป้าหมายเหล่านี้ควรเป็นเป้าหมายที่เป็นรูปธรรม สมเหตุสมผล และคำนึงถึงเวลา การคิดถึงขั้นตอนที่คุณต้องทำเพื่อบรรลุเป้าหมายและจดบันทึก
จะช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายได้เร็วขึ้น
4. ค้นหาจุดแข็งและใช้จุดแข็งของคุณ
ในขณะที่ต้องทำงานที่คุณขาดประสบการณ์หรือทักษะในการทำให้สำเร็จ การทำสิ่งที่คุณทำได้ดีตามธรรมชาติสามารถให้ความสุขและความพึงพอใจแก่คุณได้ คุณสามารถ
ใช้วิธีนี้เพื่อสร้างความมั่นใจในการจัดการกับงานที่คุณประสบปัญหา
5. มองความล้มเหลวในมุมมองที่ต่างกัน
ความล้มเหลว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใด ก็มักจะทำให้รู้สึกเหมือนถึงจุดจบของโลก หลายคนมักจะมีความคิดที่โทษตัวเองเมื่อพบเจอกับเรื่องล้มเหลว ทั้งๆ ที่ จริงๆ แล้ว
มีหลายปัจจัยที่ส่งผลให้เราอาจประสบกับความล้มเหลวในตอนนี้ หรือ เกิดสถานการณ์ที่ทำให้เกิดเรื่องล้มเหลวได้เมื่อผู้คนทำอะไรที่ไม่เป็นไปตามที่คาดหวังไว้ เขาก็
มักจะคิดไปในแง่ลบไว้ก่อนเสมอเลย ซึ่งอาจทำให้การตัดสินใจหลังจากนี้พลาดได้ง่ายๆ และนี่เป็นอีกหนึ่งเรื่องท้าทาย!! “ลองตรวจสอบและคิดหาว่า มีวิธีใหม่ๆ
ในการแก้ไขความล้มเหลวได้หรือไม่” หรือชวนเพื่อนมาแบ่งปันความคิดเห็นนอกจากนี้ยังเป็นประโยชน์ในการเตือนตัวเองว่าคำว่า ‘ล้มเหลว’ และ ‘จุดจบ’ สามารถ
เปลี่ยนเป็นคำว่า “ความพยายามในการเรียนรู้” และ “ความพยายามไม่มีวัน ต า ย ” เมื่อคุณพากเพียรพยายามมากพอ คุณจะได้รับความสำเร็จเป็นการตอบแทน
6. ฝึกความรู้สึกขอบคุณ
เมื่อคุณทำงานติดพันหรือวุ่นอยู่กับงานอะไรก็ตามเป็นเวลานาน หลายคนมักจะหลงลืมในเรื่องการชื่นชมตัวเองไป ขอให้คุณลองชื่นชมตัวเองแบบง่ายๆ ในแต่ละวัน
แค่นี้ก็สามารถทำให้คุณรู้สึกมีความสุขและสุขภาพดีขึ้นได้ด้วยกระบวนการนี้เกี่ยวข้องกับสี่ส่วนของร่างกายคุณ ดวงตา จิตใจ มือ และหัวใจ
ดวงตา : ดวงตาเป็นสัญลักษณ์แทนการมองและเฝ้าสังเกตผู้คนและสิ่งต่างๆ รอบตัว “ลองหาเวลาคิดถึงช่วงเวลาดีๆ ที่ได้พบเจอในแต่ละวัน” นี่เป็นขั้นตอนหนึ่งที่สำคัญ
ที่ควรทำเพื่อทบทวนถึงเรื่องดีๆ ที่เกิดขึ้น
มือ : มือเป็นสัญลักษณ์แทนความรู้สึกขอบคุณ ไม่ว่าจะเป็นการกล่าวขอบคุณ การเขียนการ์ดขอบคุณ หรือการเตรียมของขวัญเพื่อแสดงความขอบคุณต่อใครสักคน
อยากให้คุณลองถ่ายรูปสิ่งที่คุณรู้สึกขอบคุณในทุกๆ วันดู เพื่อเตือนตัวเองว่า ในชีวิตของคุณมีมากมายที่รอการขอบคุณ”
สุดท้ายนี้ อย่าลืมใช้หัวใจ “แสดงความจริงใจทุกครั้งที่คุณรู้สึกขอบคุณผู้อื่น”
7. สร้างสัมพันธ์ที่กลมกลืนสามัคคี
ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลมักจะเป็นตัวกำหนดอารมณ์ของเรา ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมสายสัมพันธ์ที่ดี และแน่นแฟ้นอบอุ่นภายในครอบครัวและเพื่อนฝูงจึงเป็นรากฐาน
ของ สุ ข ภ า พ จิ ต ที่ดี นอกจากการแสดงความรู้สึกขอบคุณ การฟังและให้ความสนใจผู้อื่นมากขึ้น การใช้คำพูดที่ไตร่ตรอง รอบคอบและสร้างสรรค์ยังช่วยสร้าง
ความสนิทสนมและสัมพันธ์ที่ดีได้อีกด้วยการ feedback หรือเจรจา พูดจาโต้ตอบอย่างสร้างสรรค์ เป็นการแสดงความจริงใจ กระตือรือร้น และสนับสนุนกันอย่างแท้จริง
ซึ่งทำให้อีกฝ่ายรู้สึกมีคุณค่า “ถ้าเพื่อนของคุณอวดเสื้อตัวใหม่ให้คุณดู ขอให้คุณให้กำลังใจโดยพูดว่า ‘มันดูดีเหมาะกับเธอเลยนะ!’ หรือ ‘ดีใจด้วยที่ได้ซื้อของที่เธอชอบ!’”
การแสดงถึงความความเห็นอกเห็นใจ ความเข้าใจ จริงใจ เป็นสิ่งจำเป็นเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณกำลังตกอยู่ในช่วงเวลา
เ ล ว ร้ า ย หรือกำลังคิดในแง่ลบหรือ
พบเจอกับปัญหา “พยายามมองข้ามปฏิกิริยาทางอารมณ์ในแง่ลบของผู้อื่น และพยายามทำความเข้าใจพฤติกรรม อารมณ์ หรือมุมมองของพวกเขาด้วยการคิดว่า
ถ้าเราต้องอยู่ในสถานการณ์ที่ เ ล ว ร้ า ย เดียวกันนี้” อย่าให้ความวิตกกังวลมาบั่นทอนชีวิตของคุณ
8. ค้นหาความหมายของชีวิต
ชีวิตที่มีความหมาย มีความพอใจในชีวิต หากต้องการเป็นคนที่มีความหมายและเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น คุณลองถามตัวเองว่าคุณจะช่วยเหลือครอบครัว เพื่อนฝูง และสังคมได้อย่างไร
“การเป็นอาสาสมัครหรือแม้กระทั่งการช่วยเหลือเพื่อนหรือการดูแลคนรอบข้างจะทำให้คุณรู้สึกมีคุณค่า” คุณสามารถวางแผนเป้าหมาย หรือกิจกรรมที่ทำให้คุณรู้สึกเป็นที่
ต้องการของผู้อื่นได้ล่วงหน้า“คุณสามารถคิดทบทวนถึงทุกช่วงเวลาดีๆ และค้นหาว่าความสำเร็จและประสบการณ์ในอดีตของคุณจะช่วยให้คุณสร้างอนาคตที่ดี มีคุณค่า
เพิ่มมากขึ้นอีกได้อย่างไร”
การพัฒนาตัวเองเป็นเรื่องของการสร้างทักษะได้ตลอดชีวิต ไม่ว่าคุณจะอยู่ในวัยใดก็ตาม ต่อเมื่อคุณพัฒนาให้ตัวเองมีความสุขได้ การแบ่งปันและสร้างสรรค์ให้ผู้อื่นมีความสุขไปด้วย
ก็ไม่ใช่เรื่องยาก!!
แหล่งที่มา tonyrobbins