
ไม่มีใครอยากเปลี่ยนงานบ่อยโดยไม่มีเหตุจำเป็น ไม่ว่าจะเป็นคนในแผนกใด
ขององค์กรก็ตามถ้าเป็นไปได้ใครก็อยากอยู่กันแบบครอบครัว มีอะไรก็ช่วยเหลือ
เกื้อกูลกันเรื่อย ๆแต่เพราะแต่ละคนมีที่มาไม่เหมือนกัน นิสัยใจคอไม่เหมือนกันนี่สิ
การปรับตัวเลยยากกันสักหน่อย บ่อยครั้งตำแหน่งสูง ๆก็ต้องใช้อำนาจลงมา
จัดการบ้างเพื่อให้แต่ละคนทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีบางครั้งก็ไม่อยากจะทำเลย
เพราะดูเหมือนเป็นการฝืนใจกัน แต่เพื่อให้งานเดินต่อไป จะทำไงได้?ไม่ใช่เรื่อง
ที่ผิดหากเจ้านายจะใช้อำนาจเพื่อควบคุมลูกน้องแต่ก็ต้องบาลานซ์ความเหมาะสม
ในแต่ละสถานการณ์ด้วย อย่าลืมว่าเราทำงานกับคนไม่ใช่เครื่องจักรที่ป้อนคำสั่ง
แล้วเป็นอันจบ เราต้องมีการ ซื้ อ ใจกันเพื่ออยู่ด้วยกันไปนาน ๆหัวหน้าที่ดีคืออะไร?
เจ้านายที่ดีเป็นแบบไหน? ในแต่ละคนคงมีอุดมคติที่ไม่เหมือนกันแต่โดยรวมแล้ว
ใครก็อยากได้เจ้านายในแบบนี้
1. ให้เครดิตลูกน้อง
ถ้ามันเป็นฝีมือคุณจริง ๆ ไม่ได้ลอกใครมา เราพร้อมจะขอบใจคุณถ้าคุณทำงานมา
เป็นทีมก็บอกว่ามันเป็นผลงานของ “เรา” บอกกันตามตรงอย่า ดิ ส เ คร ดิ ต กัน
การทำงานมันก็ต้องมีคละกันทำเดี่ยวทำเป็นทีมกันบ้างเราดูออก
2. ใครจะใช้เด็กเรา
กรุณามาคุยกับเราก่อน เราไม่อยากให้ลูกน้องเราเหนื่อยเพิ่มโดยไม่จำเป็นเพราะ
แต่ละคนย่อมมีหน้าที่เป็นของตัวเองอยู่แล้ว
3. เราพร้อมจะเถียงและออกหน้าแทนลูกน้อง
หากพิสูจน์ได้ว่ามันไม่แฟร์กับพวกเขาจริง ๆ พร้อมจะงัดหลักฐานมาสู้กันให้เป็น
ประจักษ์ทุกสายตาแต่ถ้าลูกน้องเราผิดจริง เราก็พร้อมจะตักเตือนถามที่มาที่ไป
ให้ขอโทษอีกฝ่ายซะ
4. เรียกมาคุย
ปัญหาไหนที่เราเห็นก่อน เราจะไม่รอให้คุณมาฟ้องก่อนเราจะเรียกมาคุยเลยว่าคุณโอเคมั้ย?
ไหวป่าว? มีปัญหาอะไรมั้ย? เคลียร์กันตรง ๆ แมน ๆไม่นอกประเด็น
5. ตรงไปตรงมา ผลักดันลูกน้องที่มีศักยภาพ
คุณไม่ต้องเลียแข้งเลีย ประจบประแจงเราเพื่อให้ได้มาซึ่งความก้าวหน้าเราดูออกว่า
มันเฟคเอาใจแลกใจกันดีกว่า ตรงไปตรงมา คุณอยากได้อะไรบอกเรา คุณคิดว่าเรา
บกพร่องตรงไหนบอกมาถ้าคุณทำงานเก่งฉายแววให้เราเห็น เราจะช่วยผลักดันคุณ
ให้เก่งไปอีกอาจจะส่งไปเทรนด์งานต่างประเทศ หรือฝึกสกิลอื่นเพิ่มก็ว่ากันไป
6. วันหยุด-วั น ล า ย า ว
บอกมาได้เลยว่า อยากได้ช่วงไหน จะให้ลาได้เต็มที่ แต่ต้องบอกกันล่วงหน้านะ
เพื่อจะได้บริหารงานบริหารคนได้ถูกระหว่างที่คุณไม่อยู่ เราเข้าใจดีว่าคุณก็ต้องการ
ผ่อนคลายบ้าง ร่ า ง ก า ย คนเรามันก็ต้องมีล้ามีเหนื่อยสะสมจากการทำงาน
มาเป็นปีบ้าง
7. กระจายงาน
ให้ทุกคนได้ทำงานตามศักยภาพแบบพอดี ไม่ให้ใครทำงานหนักเกินไป overload มากไป
ทุกงานต้องชัดเจน เท่าเทียมและต้องมีการกำหนดไว้ด้วยว่าจะให้ใคร back up ใคร
ในกรณีที่อีกคน ป่ ว ย ลา มีเหตุ ฉุ ก เ ฉิ น ที่ไม่สามารถทำงานได้
8. อย่างน้อยมีช่วงเวลาสานสัมพันธ์กัน
เช่น ทำ อ า ห า ร มาเลี้ยงกัน, ชวนกันไปแฮงค์เอาท์หลังเลิกงาน ทุกคนจะได้
สนิทกันมากขึ้นรู้สึกว่าเป็นครอบครัวเดียวกันอยากอยู่กับทีมไปนาน ๆ เวลาทำงาน
จะได้กล้าพูดกล้าคุยกันได้มากขึ้น
9. เราพร้อมจะลุยงานกับลูกน้อง
การเป็นหัวหน้า ไม่ได้แปลว่าต้องรับผิดชอบเฉพาะงานระดับสูงแต่เพียงอย่างเดียว
งานเล็กน้อย งานกรรมกรก็ต้องทำได้อย่างไม่มีข้อแม้ไม่จำเป็นต้องรอใครก่อน
เมื่อมีโอกาสทำได้ คิดซะว่าช่วย ๆ กันไปหรือใครมีปัญหาติดขัดที่ตรงไหน ก็
เดินเข้ามาขอคำปรึกษาได้เลยอย่าลุยคนเดียวโดยที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลยไม่อย่างนั้น
คุณจะไม่มีทางได้พัฒนาฝีมือใจเขา ใจเรา เราก็มีหัวใจ คนอื่นก็มีหัวใจเราเหนื่อยเป็น
คนอื่นก็เหนื่อยเป็นมองเพื่อนร่วมงานให้เหมือนครอบครัวเดียวกันสิ
!นี่แหละคือการเอาใจใส่ที่ไม่ได้ยากอะไรเลย
ที่มา : j e e b