
มนุษย์ทุกคนต่างก็มีนิสัยที่ ” งี่เง่า ” ไปคนละแบบ บางคนก็แสดงให้เห็นชัดเจน บางคนก็เก็บซ่อนไว้ลึกมากถ้าไม่สนิทก็ไม่รู้ ถ้างี่เง่าแต่ไม่เดือดร้อนใครก็ไม่ใช่ปัญหา
แต่บางคนกลับนำนิสัยนั้นมา ทำ ล า ย ชีวิตรักของตัวเองกับแฟนพูดจาแย่ๆ ทำร้ายความรู้สึกของเขาไม่มีชิ้นดี ไม่มีใครอยากดูเหมือนเศษขยะในสายตาคนที่รักหรอกค่ะ
1 ไม่เห็นคุณค่า / ความสำคัญของเขา
รู้อยู่หรอกว่าแฟนเป็นคนน่ารัก ใจดี เทคแคร์ อบอุ่นเอาใจเก่ง ( ที่ตัดสินใจคบก็เพราะคุณสมบัตินี้แหละ ) แต่เดี๋ยวก่อน รู้แบบนี้แล้วทำไมไม่เอ่ยคำชื่นชม คำขอบคุณ
กับสิ่งที่เขาตั้งใจทำให้บ้างล่ะ ทั้งมารับส่ง ซื้อขนมมาฝาก มาดูแลยามเจ็บป่วย สิ่งที่เขาได้รับก็มีแค่คำว่า ” อืม ” หรือสีหน้าเรียบเฉยเพราะคิดว่าเป็นหน้าที่อยู่แล้ว
เอ่อ ผู้ชายก็มีหัวใจ มีความรู้สึกนะคะ ชมเขาบ้างสาวๆ บางคนอาจคิดว่าดูตลกที่จะต้องคอยพูด ” ขอบคุณ ” ซ้ำๆ เหมือนแผ่นเสียงตกร่องแต่เชื่อเถอะว่าผู้ชายที่ไหนก็
ไม่เบื่อเสียงหวานๆ ของแฟนหรอกค่ะ ไม่ว่าเธอจะพูดซ้ำซากแค่ไหนก็เถอะ
2 เอาใจใส่เขาสุดๆ แต่เขาไม่เห็นคุณค่าเลย
ข้อนี้น่าจะตรงกันข้ามกับข้างบน แต่สลับเพศกัน จากที่เขาเพียรเทคแคร์เธอคราวนี้เป็นเธอพยายามดูแลเอาใจใส่เขาแทน แต่ธรรมชาติคนเรา เมื่อทำอะไรลงไปแล้วมักหวัง
สิ่งตอบแทนเสมอแต่แฟนกลับทำเฉย ไม่แม้แต่จะเอ่ยคำชมสักนิด ทำให้เธอท้อแท้สิ้นหวัง นานๆ เข้าก็รู้สึกโกรธ หงุดหงิด พาลอยากหาเรื่องเลิกซะงั้นถ้าแฟนของเธอเย็นชา
ทำเฉยแล้วเธอรู้สึกไม่โอเคจริงๆ ล่ะก็ จับเข่าคุยกันอย่างจริงจังเถอะ! การทนสะสมความโกรธเกลียดและความเสียใจไม่ได้ทำให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งรู้สึกดีขึ้นบางทีเขาอาจไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ
ว่าเธอกำลัง ” เอาใจ ” เขาอยู่พูดคุย เปิดอกคุยกันให้เข้าใจ อย่าทำตัวเป็นผู้หญิงที่คอยรับใช้แฟนโดยที่เขาไม่เห็นคุณค่าเลยนะ
3 พิสูจน์ / ทดสอบความรักของเขากับเรื่อง ไ ร้ ส า ร ะ
ผู้หญิงบางคนก็ชอบพิสูจน์ความรักกับแฟนในเรื่อง ไ ร้ ส า ร ะ กลัวว่าคบกันแล้วจะไม่มีสีสันหรืออย่างไรก็ไม่ทราบ หาเรื่องขอนั่นขอนี่ ทั้งเงินสด บ้าน รถ อีกนิดก็คง
ขอวิญญาณแล้วล่ะค่ะสาวๆ บางรายก็อาจไม่ได้ขอเป็นตัวเงิน แต่ใช้วิธีทดสอบอารมณ์ฝ่ายตรงข้ามแทน เอะอะหาเรื่องทะเลาะ พอฝ่ายชายเริ่มจะขึ้นเสียงก็เบะปาก ร้องไห้บอกว่า
” ตัวไม่รักเค้าแล้วเหรอ ” ตอนแรกก็รักหรอกแม่คุณ แต่หาเรื่องทะเลาะขนาดนี้เริ่มเหนื่อยแล้วล่ะ การพิสูจน์ความรัก ควรเลือกสถานการณ์ที่เหมาะสม หรือสามารถรู้ได้เอง
เมื่อเจอเหตุการณ์สำคัญๆเช่น เจ็บป่วยต้องเข้าโรงพยาบาล รถเสียกลางทางต้องให้เขาขับรถไปรับ ไม่จำเป็นต้อง ” เมค ” ขึ้นมาเองด้วยการทะเลาะเรื่อง ไ ร้ ส า ร ะ
ไม่อย่างนั้นอาจจบลงด้วยการเลิกรานะคะ
4 เมื่อเกิดการทะเลาะ เขา ” ต้อง ” เป็นฝ่ายผิดเสมอ
สาวๆ บางคนยอมรับความจริงไม่ได้ เมื่อเกิดการทะเลาะ คิดเห็นไม่ตรงกันเรื่องเล็กขี้ปะติ๋วหรือเรื่องใหญ่แค่ไหน เขาจะต้องเป็นฝ่ายผิดเสมอ แม้จะรู้อยู่แก่ใจว่าเธอมีส่วนผิดด้วยก็ตาม
เช่น เขาเผลอชนแก้วน้ำใบโปรดของเธอแตก เธอก็ด่าว่าเขาเสียมากมายทั้งที่รู้ตัวเองว่าวางไว้หมิ่นเหม่ เ สี่ ย ง ที่จะถูกชนแตกอยู่แล้วแต่ไม่ยอมรับซะอย่าง ใครจะทำไม!
ผู้ชายนั้น ถูกโยนความผิดให้แรกๆ ก็ยังพอรับได้เพราะรักและยอมแฟนหรืออยู่ในช่วงโปรโมชั่นนั่นแหละ แต่นานไปเขาจะเริ่มหงุดหงิดและโมโห ในที่สุดก็จะทะเลาะกันยิ่งกว่าเดิม
บางรายอาจถึงกับลงไม้ลงมือกันเลยทีเดียวทางที่ดี เธอควรยอมรับผิดในส่วนที่ทำผิดจริง เรื่องไหนที่เขาผิดเต็มประตูก็ยอมปล่อยๆ ให้อภัยเขาบ้าง เขาจะรู้สึกดีและรักเธอมากขึ้นเป็นกอง
5 หมางเมิน / ทำเงียบหนีปัญหา
สาวๆ หลายคนใช้วิธีนิ่งสงบสยบความเคลื่อนไหว แต่กรณีนี้ใช้ไม่ได้หากเกิดปัญหาที่ต้องเคลียร์ให้เข้าใจค่ะเธอหมางเมิน เงียบ มองผ่านตัวเขาไปเหมือนเขาเป็นอากาศธาตุ
ถ้าจะให้เธอยอมเอ่ยปากพูดกับเขาก่อนล่ะก็ เธอยอมนั่งมองเพดานโล่งๆทั้งวันยังจะดีซะกว่าจำไว้ว่า ยิ่งปล่อยเวลาให้นาน ก็ยิ่งต่อกันติดยากขึ้นเรื่อยๆ อย่าเงียบ อย่าทำให้เขารู้สึกแย่
เศร้าใจเพราะทักไปแล้วไม่ตอบเพราะถ้าเธอยังทำเฉยชาต่อไป เขาอาจจะเซ็งแล้วปล่อยเธอไปเลยก็ได้ แล้วอย่ามาร้องไห้ฟูมฟายทีหลังก็แล้วกัน
6 ความคาดหวังของเธอและเขา ” ไม่เท่ากัน ”
เธอมีสิ่งที่คาดหวังจากแฟนบ้างหรือเปล่า คนรักกัน จะหวังความใส่ใจ ความรักจากแฟนบ้างก็ไม่แปลกแต่หากคาดหวังสูงเกินไปก็ใช่ว่าจะดีผู้หญิงหลายคนมีคติในใจว่า
ถ้ามีแฟนต้องได้ทั้งบ้าน รถ เงินสด แก้วแหวนเงินทองแต่เมื่อถามว่าแล้วเขาจะได้อะไรจากเธอบ้าง กลับได้คำตอบว่า ” เอ้า ผู้ชายต้องเป็นฝ่ายเปย์อย่างเดียวไม่ใช่เหรอคะ
ฉันมีครอบครัวมีเรื่องยุ่งวุ่นวายตั้งเยอะที่ต้องทำ ” แหม ผู้ชายเขาก็มีบ้าน มีครอบครัวเหมือนกันนะเธอการคาดหวังในตัวอีกฝ่ายขึ้นอยู่กับสถานะ ถ้าเป็น ” แฟน ” ก็ระดับหนึ่งถ้าเป็น
” สามี-ภรรยา ” ก็สูงขึ้นไปอีกชั้นหนึ่ง แต่ไม่ว่าจะอยู่ในขั้นไหน ก็ควรรับและให้จากอีกฝ่ายเท่าๆ กัน อย่าให้มีใครต้องได้เปรียบเสียเปรียบ จะได้ไม่เกิดเรื่องให้น้อยใจกันภายหลังค่ะ
7 ถามคำตอบคำ ไม่มีผู้ชายคนไหนชอบสาวเย็นชาหรอกค่ะ! ถ้าเวลาออกไปเที่ยว ไปเดท หรือแม้แต่กำลังทะเลาะกัน เขาถามอะไรเธอก็ตอบแต่ว่า ” อ๋อ “, ” อืม “, ” ใช่มั้ง “
” คงไม่ใช่หรอก ” เหมือนหุ่นยนต์ซ้ำไปซ้ำมา คิดดูซิว่าจะน่าเบื่อแค่ไหน แม้เธอจะอ้างว่ายุ่งอยู่ ไม่มีเวลาคิดคำตอบประโยคยาวๆแต่การคุยแบบขอไปทีเป็น ม า ร ย า ท ที่ ห ย า บ ค า ย
ถึงจะพูดกับเพื่อนหรือคนในครอบครัวก็ไม่สมควรทำอยู่ดีถ้าแฟนของเธอพยายาม สื่ อ ส า ร พูดคุยกับเธออย่างดีแล้ว ก็คุยกับเขาให้ราบรื่น ถามเขาด้วยคำถามปลายเปิด
ให้แสดงความเห็นบ้างการพูดคุยนี่แหละจะทำให้เธอและเขาเข้าใจตัวตนกันและกันมากขึ้น ถ้าเธอถามคำตอบคำ บทสนทนาจะมาคุและจบลงในไม่กี่นาทีเป็นแบบนี้
นานเข้าเขาจะรู้สึกว่า ” มีแฟนก็เหมือนไม่มี คุยอะไรก็ไม่ได้ เลิกกันเลยดีกว่า! ”
8 เอาแต่ใจตัวเอง / งี่เง่า
สาวๆ หลายคนคงยกมือกันเพียบเมื่อมาถึงข้อนี้! กับเพื่อนก็ไม่เป็นขนาดนี้ แต่เมื่อได้อ้อนแฟน นิสัยเอาแต่ใจตัวเองก็มารัวๆโลกต้องหมุนรอบตัวเธอเท่านั้น เขาไม่มีสิทธิ์
ออกความคิดเห็นใดๆ ทั้งสิ้น จะไปดูหนังก็ต้องเป็นแนวที่เธอชอบเท่านั้นถ้าจะกินข้าวเธอก็ต้องเป็นฝ่ายเลือกร้านเสมอ คุยเรื่องออะไรเธอก็ต้องเป็นฝ่ายชนะ ห้ามขัด
ห้ามเถียง!ช่วงแรกที่ยังเป็นช่วง ” โปรโมชั่น ”แฟนหนุ่มของเธออาจไม่คิดอะไรมาก ยอมตามน้ำไปก่อน แต่ถ้าเธอไม่คิดปรับปรุงนิสัย เขาจะเริ่มอึดอัดทั้งยังรู้สึกเสียหน้า
และความเป็นผู้นำอีกด้วย เหมือนตัวเองเป็นเจ้าตูบน้อยตามเจ้าของต้อยๆในที่สุดก็จะ ร ะ เ บิ ด ลงตูม!ถ้าไม่อยากให้เหตุการณ์แบบนั้นเกิดขึ้น ให้เขามีส่วนออกความเห็นบ้าง
อย่าครอบงำผู้ชายทุกเรื่องค่ะ!
9 ทำให้อีกฝ่ายอับอายในที่สาธารณะ
ผู้หญิงบางคนอยาก ” โชว์พาว ” แสดงอำนาจว่าตัวเองเหนือกว่าอีกฝ่าย ข่มรัวๆ ด้วยการหาเรื่องทะเลาะ ด่ า ท อ ต บ ตี จิ ก หู
ก ร ะ ช า ก คอเสื้อแฟนในที่สาธารณะเช่น
กลางลานน้ำพุ กลางห้างที่มีแต่ไทยมุงเฝ้ามองกันอยู่ เมื่อฝ่ายชายยอมก็ได้ใจ ทำซ้ำๆ ไปเรื่อย แบบนี้ไม่โอเคนะคะอย่าตะโกน กรีดร้องน้ำหูน้ำตาไหล ทิ้งตัวลงไปดื้น
ทำให้แฟนอับอายในที่สาธารณะหรือที่มีคนแปลกหน้าอยู่ด้วยเป็นอันขาด ถ้ามีเรื่องทะเลาะจนต้องขึ้นเสียงกันจริงๆ หาที่ส่วนตัวสองต่อสองคุยกันจะดีกว่าหรืออย่างน้อยที่สุด
คือเดินหนีไปสงบสติอารมณ์ก่อนการทำให้เขาอับอาย เสียศักดิ์ศรีเป็นสิ่งที่หยามเกียรติลูกผู้ชายอย่างมากครั้งแรกก็พอทนได้อยู่หรอก ถ้าทำบ่อยๆ แล้วเขาฮึดสู้ตอบขึ้นมา
จะมองหน้ากันไม่ติดนะคะ
10 โกหกสิ่งที่คู่รักไม่ควรทำอย่างยิ่ง ย้ำว่า ” อย่างยิ่ง ” คือการโกหก!
สาวๆ บางคนไม่กล้าพูดความจริง จะทำของแตกหรือไปเที่ยวดึกๆ กลัวแฟนรู้ก็ขอบอกความจริงครึ่งเดียวแล้วกัน ( มันก็คือการโกหกนั่นแหละ ) ผู้ชายบางคนอารมณ์ร้อน
เธอกลัวบอกความจริงแล้วจะโดนโมโห ตะคอกใส่นี่นาเหตุผลในการปิดบังความจริงนั้นมีมากมาย นอกจากจะ ” กลัว ” แล้ว อีกสาเหตุหนึ่งคือ ” อวดเก่ง ” ทั้งที่ใจจริงตัวสั่นงันงก
แต่ขอให้ได้ยิ้มหวานอวดแฟนไว้ก่อน ถ้าแฟนจับไม่ได้ก็แล้วไป แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่เขารู้ความจริงล่ะก็ เขาจะไม่มีวันเชื่อใจเธออีกเลย!หยุดโกหกซ้ำไปซ้ำมาแล้วเรียนรู้ที่จะเผชิญหน้า
กับความจริงได้แล้ว เชื่อเถอะว่าการพูดความจริงแค่ครั้งเดียวแล้วจบ ดีกว่าปั้นเรื่องโกหกไปเรื่อยๆ เป็นไหนๆ
11 ไม่กล้าเผชิญปัญหา / เปลี่ยนประเด็นเวลาทะเลาะกัน
เมื่อเจอหัวข้อที่ต้องถกเถียงกัน เธอจะหลีกเลี่ยงหรือเบี่ยงประเด็นเสมอแบบนี้ไม่กล้าเผชิญปัญหานี่นา! ความรักคือการจับมือฝ่าฟันเผชิญปัญหาไปด้วยกัน ถ้าเธอเอาแต่หนี หนี และหนี
ปัญหาก็ยังไม่ได้รับการแก้ไขทำให้ยิ่ง เ ค รี ย ด มากขึ้นเรื่อยๆ แฟนก็หงุดหงิดและโกรธอีกต่างหากความรักมีทั้งเรื่องดีและร้าย ชีวิตไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเสมอไปหรอกนะ
ถ้ามีช่วงที่ต้องตัดสินใจจริงๆ ก็ต้องยอมรับและช่วยกันแก้ไขกับแฟนนะ จำไว้ว่าเส้นทางความรักที่ยาวนาน เริ่มต้นจากก้าวแรกนะคะ
12 รู้สึกหงุดหงิดได้ง่ายเมื่อเจอหน้าเขา
เธอรู้สึกว่าตัวเองหงุดหงิด โมโหขึ้นมาทันทีเมื่อเจอหน้าแฟนไหมคะอยู่ดีๆ ก็รู้สึกโกรธขึ้นมาเองอย่างไร้สาเหตุ หรือจะเรียกว่า
” เ ห ม็ น ขี้ ห น้ า ” ก็คงได้ แม้จะบอกเหตุผลตรงๆ
ไม่ได้แต่ต้องมีเหตุผลลึกๆ อยู่เบื้องหลังในหัวใจของเธออย่างแน่นอน เช่น ไม่ได้รักเขาแล้วไงล่ะแทนที่จะทำหน้าบูดหน้างอตะคอกใส่แฟนรัวๆ หรือทำมารยาทแย่ใส่ผู้ชายตรงหน้าแล้วล่ะก็
กลับมานั่งคิดทบทวนก่อนว่าทำไมเธอรู้สึกรำคาญหน้าแฟนตัวเองหรือถ้าใจกล้าพอก็บอกตรงๆ ไปเลยว่ารู้สึกไม่พอใจที่เจอหน้าเขาอย่างไร้สาเหตุเพื่อคิดหาทางแก้ไขด้วยกัน
เชื่อเถอะว่า ถ้าเธอได้เอ่ยปากออกไป เธอจะรู้สึกโล่งใจขึ้นเยอะ!
13 แต่ละฝ่ายไม่มีเวลาส่วนตัวของตัวเอง
ไม่ว่าใครก็ต้องการเวลาส่วนตัวกันทั้งนั้น! นอกจากช่วงเวลาที่อยู่คนเดียวแล้ว มนุษย์เราก็ต้องการการติดต่อ สื่ อ ส า ร สานสัมพันธ์กับเพื่อน พ่อแม่พี่น้อง ไม่ใช่ตัวติดหนึบอยู่
แต่กับแฟนอย่างเดียว!คู่รักที่อยู่กันได้นานคือคู่รักที่เว้นระยะให้กันอย่างเหมาะสมไม่ก้าวก่ายและล้ำเส้น ต่างฝ่ายต่างมีช่วงเวลาส่วนตัวของตัวเอง และเวลาที่ได้ใช้ร่วมกัน
ถ้าเปรียบเป็นวงกลมเวลาที่มีร่วมกันก็คือช่วงที่วงกลมทับกันพอดี การทำแบบนี้ทำให้ชีวิตคู่ไม่น่าเบื่อ และอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขค่ะการที่เธอทำตัวเป็นกาวตราช้างติดตามแฟนไปตลอด
ทำให้เขารู้สึกรำคาญได้! ถ้าเขาเป็นผู้ชายประเภทติดแฟนก็แล้วไป แต่ถ้าเป็นพวกติสต์ โลกส่วนตัวสูงนั้น เขาอาจโบกมือลาเธอได้ในอีกไม่ช้า
14 ไม่ค่อยเอ่ย ” คำชมเชย ” อีกฝ่าย
เชื่อเถอะว่าใครๆ ก็ต้องการให้คนอื่นยกย่องชมเชยกันทั้งนั้น ( แม้ว่าปากจะบอกว่าไม่ต้องเกรงใจก็ตาม ) จำได้ไหมว่าชมแฟนครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ เป็นปีแล้วหรือยัง สาวๆบางคน
เห็นว่าการที่แฟนคอยตามใจ เป็น ส า ร ถีรับส่งไปเที่ยว ไปเรียน/ทำงาน ซื้อของมาฝาก ซื้อของขวัญเซอร์ไพรส์ทุกเทศกาลเป็นหน้าที่ เป็นสิ่งที่ต้องทำอยู่แล้วทำไมต้อง
ขอบคุณด้วยล่ะ ทำเอาหนุ่มๆ บางคนท้อแท้ หนักเข้าก็ถอดใจ ไม่ทำแล้วตั้งแต่นี้ต่อไปจงชมแฟนให้บ่อยขึ้นทำให้เขารู้ว่าเธอยังชื่นชอบ หลงใหลเขาอยู่ เขาจะได้มีกำลังใจและ
ทำตัวเป็นแฟนในฝันต่อไปยังไงล่ะ แผนสูงนะเนี่ยเรา
15 หงุดหงิดเมื่อเขาออกไปเที่ยวกับเพื่อนเธอเป็นคนหนึ่งที่ทำตัว ” งี่เง่า ”
เวลาแฟนขออนุญาตไปเที่ยวกับเพื่อนหรือเปล่าเอ่ยยกตัวอย่างเช่น เมื่อแก๊งเพื่อนของเขาชวนไปปาร์ตี้ เธอก็เริ่มออกอาการงอแง เอาแต่ใจ พูดกระฟัดกระเฟียดว่า ” จะทิ้งเค้าไปหาเพื่อนเหรอ คนใจร้าย ”
หรือทำหน้า บู ด เ บี้ ย ว ตะโกนใส่หน้าว่า ” ไม่ให้ไป “ถ้าเขาออกเที่ยวกับเพื่อนทั้งวี่ทั้งวัน ตั้งแต่เช้าจนดึกไม่เคยเห็นหน้าเลย ปล่อยให้เธอผู้เป็นแฟนสาวนั่งเหงาเปล่าเปลี่ยว
เดียวดายน่าสง ส า ร นั่นก็สมควรโดนด่าอยู่ = = แต่ถ้าปกติเขาก็เอาใจใส่และให้เวลาเธอบ่อยๆ อยู่แล้วการออกไปเที่ยวกับกลุ่มเพื่อนชายบ้างก็เป็นการผ่อนคลาย
ปล่อยเขาไปเถอะค่ะเว้นระยะให้คิดถึงกันบ้าง ดีกว่าตัวติดกันตลอดเวลาแต่อึดอัด ไม่มีความสุขนะคะ
ขอขอบคุณ forlifeth